|
พื้นฐานการเปลี่ยน php code จาก mysql มาใช้ mysqli |
พื้นฐานการเปลี่ยน php code จาก mysql มาใช้ mysqli สวัสดีครับ บทความนี้จะเป็นบทความพื้นฐานการเปลี่ยน php code จาก mysql มาใช้ mysqli ครับ อย่าพิ่งบอกว่า ไม่เปลี่ยน mysqli ยาก ครับ ผมอยากให้ลองเปิดใจแล้วอ่านบทความนี้ครับ mysqli คือ extension(MySQL Improved Extension)ใน phpที่พัฒนามาจากMySQL เดิม รองรับMySQL 4.1 ขึ้นไป และสามารถเขียนในรูปแบบเดิมและรูปแบบ OOP ได้อย่างสมบูรณ์ครับ สนับสนุน transaction ทุกชนิดแต่ไม่รองรับmyisam ครับ
ตารางเปรียบเทียบMySQL mysqli PDO
เปรียบเทียบโค้ดตัวอย่างสำหรับใช้ศึกษา php code เชื่อมต่อฐานข้อมูล ระหว่าง mysql กับ mysqli
mysql
<?php
$link = mysql_connect('host mysql', 'ชื่อ', 'รหัส');
if (!$link) {
die('Could not connect: ' . mysql_error());
}
mysql_select_db("ชื่อฐานข้อมูล",$link);
$row = mysql_fetch_array($result);
echo mysql_error();
echo 'Connected successfully';
mysql_close($link);
?>
mysqli แบบProcedural style
<?php
$link = mysqli_connect('host mysql', 'ชื่อ', 'รหัส', 'ชื่อฐานข้อมูล');
if (!$link) {
die('Could not connect: ' . mysqli_connect_errno());
}
$result = mysqli_query($link, "SELECT * WHERE 1=1");
$row = mysqli_fetch_array($result,MYSQLI_ASSOC);
echo 'Connected successfully';
mysqli_close($link);
?>
mysqli แบบ OOP
<?php
$link = new mysqli('host mysql', 'ชื่อ', 'รหัส', 'ชื่อฐานข้อมูล');
if ($link->connect_error) {
die('Could not connect: ' . mysqli_connect_errno());
}
$result = $link->query($link, "SELECT * WHERE 1=1");
$row = $link->fetch_array($result,MYSQLI_ASSOC);
echo 'Connected successfully';
$link->close();
?>
อธิบายcode การเชื่อมต่อฐานข้อมูล mysqli
1.mysql
$link = mysql_connect('host mysql', 'ชื่อ', 'รหัส');
2.mysqli แบบProcedural style
อธิบายคำสั่ง mysqli_connect รองรับคำสั่งมากกว่าเดิม ดังนี้ mysqli_connect('host mysql', 'ชื่อ', 'รหัส', 'ชื่อฐานข้อมูล','port','socket '); ทำให้ลดบรรทัดในการเขียนโค้ดลงและง่ายขึ้น เช่น mysqli_select_db ครับ เช่น $link = mysqli_connect('host mysql', 'ชื่อ', 'รหัส', 'ชื่อฐานข้อมูล');
3.mysqli แบบ OOP
อธิบายคำสั่ง new mysqli รองรับคำสั่งมากกว่าเดิม ดังนี้ new mysqli('host mysql', 'ชื่อ', 'รหัส', 'ชื่อฐานข้อมูล','port','socket '); ทำให้ลดบรรทัดในการเขียนโค้ดลงและง่ายขึ้น เช่น $link->select_db("ชื่อฐานข้อมูล"); ครับ เช่น $link = new mysqli('host mysql', 'ชื่อ', 'รหัส', 'ชื่อฐานข้อมูล');
การquery ข้อมูล
1. mysql
ใช้$result = mysql_query('SELECT * WHERE 1=1');
2.mysqli แบบProcedural style
ใช้คำสั่งmysqli_query เช่น $result = mysqli_query($link, "SELECT * WHERE 1=1");
3.mysqli แบบ OOP
ใช้คำสั่งquery มีรูปแบบ ดังนี้ $ตัวแปรการเชื่อมต่อฐานข้อมูล->query($link, "SELECT * WHERE 1=1");
mysql_fetch_array
1. mysql
ใช้$row = mysql_fetch_array($result);
2.mysqli แบบProcedural style
รูปแบบmysqli_fetch_array คือ mysql_fetch_array(result,resulttype);
เช่น $row = mysqli_fetch_array($result,*หมายเหตุ);
3.mysqli แบบ OOP
ใช้รูปแบบfetch_array คือ $ตัวแปรการเชื่อมต่อฐานข้อมูล->fetch_array(result,resulttype);
เช่น $row = $link->fetch_array($result,*หมายเหตุ);
* หมายเหตุ พารามิเตอร์นี้ตัวเลือกเป็นค่าคงที่แสดงให้เห็นว่าสิ่งที่ประเภทของอาร์เรย์ควรจะผลิตจากข้อมูลแถวปัจจุบันค่าที่เป็นไปสำหรับพารามิเตอร์นี้คือ MYSQLI_ASSOC ค่าคงที่
MYSQLI_NUM หรือ MYSQLI_BOTH โดยใช้ MYSQLI_ASSOC คงที่ฟังก์ชันนี้จะทำงานเหมือนกันกับที่ mysqli_fetch_assoc () ในขณะที่ MYSQLI_NUM จะทำงานเหมือนกันกับที่ mysqli_fetch_row () ฟังก์ชันตัวเลือกสุดท้าย MYSQLI_BOTH จะสร้างอาร์เรย์เดียวที่มีคุณลักษณะของทั้งสอง
ถ้าลองเปรียบเทียบ code ดูระหว่าง mysql กับ mysqli แบบProcedural style แทบจะเหมือนกัน และmysqli แบบOOP สามารถเขียน code แบบ OOP ได้อย่างสมบูรณ์ครับ รูปแบบการเขียนmysqli ที่รองรับทั้ง2แบบ
สามารถเลือกได้ครับ ถ้าดูโค้ดจะเห็นได้ว่า mysqli_query กับ mysqli_fetch_array ได้มีการเติมตัวแปรฐานข้อมูลในตัวแปรเพื่อให้ง่ายต่อการแก้ไขครับ
ศึกษาmysqli เพิ่มเติมได้ที่ http://www.php.net/manual/en/book.mysqli.php ครับ
หากมีข้อผิดพลาดในบทความต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ครับ บทความแรกครับ
ขอบคุณครับที่เปิดใจอ่านครับ
|
|
|
|
|
|