HOME > บทความจากสมาชิก > การทำ SEO กับแนวทางการเขียนโปรแกรมในยุคการแข่งขัน SEO (Search Engine)
การทำ SEO กับแนวทางการเขียนโปรแกรมในยุคการแข่งขัน SEO (Search Engine)
การทำ SEO กับแนวทางการเขียนโปรแกรมในยุคการแข่งขัน SEO (Search Engine) บทความนี้ตั้งใจจะเขียนไว้นานแล้ว อนึ่งคืออยากให้เป็นแนวทางสำหรับน้อง ๆ ที่ทำเว็บไซต์ทั้งหลาย รู้เกี่ยวกับแนวทางการเพิ่มประสิทธิภาพของเว็บไซต์ เพราะส่วนมากแล้วจะเน้นแต่เขียนโปรแกรมไม่ได้คำถึงถึงหลัก SEO ที่ถูกต้อง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ Internet Marketing ที่จะช่วยส่งผลให้เว็บไซต์ประสบความสำเร็จความสำเร็จ หรือความล้มเหลวของธุรกิจบนเว็บไซต์เลยซะทีเดียว
SEO คืออะไร ??? SEO เพิ่งเกิดมาในประมาณ 5-8 ปีที่แล้ว แต่ในยุคของการแข่งขันอย่างรุ่นแรงจะอยู่ในช่วง 2-3 ปี ก่อนหน้านี้ จะเห็นได้จากบริษัทที่ทำรับพวก SEO เกิดขึ้นมากมาย (เห็นตามโฆษณาตามเว็บไซต์ หรือแม้กระทั่ง Spam อีเมล์ แต่พวกนี้ก็แปลก รับทำ SEO แต่กลับใช้วิธีการ Spam อีเมล์ซะงั้น) ถ้าจะให้พูดถึงรายละเอียดของ SEO นั้นความหมายค่อนข้างจะกว้างเพราะมีองค์ประกอบหลายอย่าง แต่วัตถุประสงค์และเป้าหมายของการทำ SEO จริง ๆ คือ การได้อันดับการค้นหาที่ติดผลการค้นหาในอันดับต้น ๆ ของ Search Engine อย่างเช่น Google , Yahoo และ Bing (ของ Microsoft) แต่คนส่วนมากจะเน้นให้ความสำคัญกับ Google มากที่สุด เพราะมีจำนวนอัตราผู้ใช้ในประเทศมากกว่า 95% ของ Search Engine ทั้งหมด และปัจจุบันคนเวลาจะค้นหาอะไร ก็ใช้บริการ Google กันเกือบทั้งสิ้น
องค์ประกอบการทำ SEO นั้น หลัก ๆ จะแบ่งเป็น 2 องค์ประกอบ
นัก SEO ทั้งหลายจะรู้ดีว่าในอัลกอริทึมของ Search Engine ทุกค่ายทุกตัวนั้นจะให้ความสำคัญกับ Backlink ภายนอก (Backlink คือ ลิ้งค์ที่เว็บไซต์อื่น ๆ ลิ้งค์กลับมายังเว็บตัวเอง) ดังนั้นนัก SEO ทั้งหลาย จะใช้วิธีการสร้าง Network หรือเครื่อข่ายเว็บขนาดใหญ่ ที่มีหลายเว็บ หลาย ไอพี เพื่อสร้าง Backlink จำนวนมาก (ปัจจุบันถูกมองว่า Spam ลิ้งค์) กลับมายังเว็บไซต์ที่ต้องการทำ SEO วิธีนี้ในสมัยก่อนสามารถใช้ได้ดีมาก จึงเห็นมีการซื้อขาย Backlink เกิดขึ้นอย่างมากมาย เว็บไซต์ที่มีทุนในการจัดทำ SEO หนักหน่อย ก็ลงทุนจ้างทำ SEO จากบริษัทที่รับทำ SEO ในราคาแพง ๆ และบริษัทเหล่านี้ก็สร้าง SEO ด้วยการสร้าง Backlink (ซื้อ Backlink) จากเว็บต้นทางที่มีค่า PageRank สูง เพื่อให้ได้ Backlink กลับมายังเว็บที่ทำ SEO (PageRank คืออะไร ?? อ่านได้จากบทความข้างล่าง) และเมื่อได้ Backlink เยอะ รวมทั้งค่า PageRank จากเว็บไซต์ที่เป็น Backlink ก็จะส่งผลให้เว็บที่ทำ SEO นั้น ได้ค่า PageRank สูงเช่นเดียวกัน รวมทั้ง bot ก็จะไต่มาตามเว็บที่เป็นต้นทาง Backlink ก็จะได้รับค่าคะแนน SEO ที่ดีและ bot เข้ามาเยี่ยมชมเพื่อ Index ข้อมูล (Index คือกาจัดเก็บลงในฐานข้อมูลของ Search Engine) ซึ่งมีผลทำให้เว็บถูกจัดอันดับการค้นหาสูงขึ้นไปด้วย
จากอัลกอรึทึมดังกล่าวมานั้น ได้สงผลเสียต่อวงการเว็บไซต์อย่างมาย เพราะเป็นเสมือนการส่งเสริมการสร้าง Link ขยะในระบบอินเตอร์เน็ตอย่างมากมาย สังเกตุได้จากพวก Spam ตามเว็บไซต์ต่าง ๆ เพื่อต้องการ Backlink กลับไปยังเว็บไซต์ของตนเอง และเว็บไซต์ที่ขาย Backlink แทนที่เว็บไซต์ที่มีเนื้อหาจะได้ Link กับเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้อง แต่กลับได้เป็น Link ที่ถูกทำ SEO ซึ่งไม่มีประโยชน์ต่อผู้ใช้เลย และเป็นการทำ SEO ที่ไม่ถูกต้อง และเสี่ยงต่อบทลงโทษของ Google อย่างมาก ซึ่งวิธีการและหลักการทำ SEO ที่ถูกต้องจะขออธิบายแนวทางในบทความนี้อย่างคร่าว ๆ พอให้เข้าใจ เพื่อจะนำไปประยุกต์กับเว็บไซต์ของตนเองได้
08. Related Link หรือลิ้งค์ที่เกี่ยวข้อง
เมื่อเขียนบทบทความเสร็จ ถ้ามีบทความที่เกี่ยวข้อง ควรใส่เป็น Related Link เพื่อผู้อ่านอาจจะสนใจติดตามไปยังบทความนั้น ๆ และยังมีผลดีต่อ SEO ด้วย เพราะ bot จะไต่ไปตามลิ้งค์เหล่านั้นด้วย และการเพิ่ม Related Link ไม่ควรมีมากจนเกินไป (2-5 กำลังพอดี) และควร Related Link หาเว็บตัวเอง ไม่ควร Related Link ออกไปลิ้งค์ภายนอก หรือมีควรใช้ attribute ว่า rel="nofollow" เช่น
<a href="http://www.hongkongdisneyland.com" rel="nofollow">Hong Kong Disneyland Web Site</a>
ตัวอย่างการ Related Link ไปเว็บภายนอกควรใส่ rel="nofollow" เข้าไปด้วย
16. Webmaster Tools ของ Google (บริการนี้ฟรี)
ใช้บริการ Webmaster Tools ของ Google ช่วยในการจัดการเว็บไซต์ผ่าน Google Search Engine เช่น bot , sitemap และคำแนะนำอื่น ๆ จาก Google
17. Google Analytics ของ Google (บริการนี้ฟรี)
เป็นเครื่องมือวิเคราะห์และวิจัยผู้พฤติกรรมของผู้เยี่ยมชม ตัวนี้มีประโยชน์มาก เพราะจะได้เป็นแนวทางในการปรับปรังเว็บไซต์