|
การ Join บน SQL และการใช้ Sub Query เพื่อพัฒนา Skill การเขียน Query ขั้นเทพ!!! |
การ Join บน SQL และการใช้ Sub Query เพื่อพัฒนา Skill การเขียน Query ขั้นเทพ!!! แอดมินเองเป็นคนหนึ่งในช่วงของการเริ่มเขียนโปรแกรมแรกๆ จะไม่ชอบการเขียน Query เลย จะอาศัยให้คนอื่นเขียนแทน แต่นั่นบอกได้เลยว่าเป็นการกระทำที่ผิด!!! อย่างยิ่ง เพราะมันเป็นการปิดกั้นตัวเองที่จะพัฒนา Skill ทางด้านการเขียน Query ให้เก่งๆ (ปัจจุบันก็ยังเขียนไม่เก่ง แต่พอเขียนได้ในระดับหนึ่งเท่านั้น) ในคำสั่งของการเขียน Query บน Database ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น MySQL, SQL Server, Oracle, DB2 จะมีการใช้ Syntax และรูปแบบที่คล้ายๆ กัน ถ้าโปรแกรมเมอร์ที่เก่งๆ จะสามารถเขียน Query ได้ดี โค้ดสั้นและทำงานได้เร็ว ซึ่งคำสั่งที่เราจะพบเจอกันบ่อยๆ ในกรณีที่ Query หรือ Result นั้นมีความซับซ้อนมากๆ ก็คือ Sub Query มันเป็นวิธีการเอา Query แรกที่ได้นั้นไปใช้งานต่อใน Query อื่นๆ โดยอาจจะนำ Result ของ Query แรก ไป Join กับ Query อื่นๆ เพื่อให้ได้ Result สุดท้ายที่ต้องการ
SQL Join and Sub Query
สำหรับวิธีการใช้ Sub Query นั้นมีรูปแบบการเขียนได้หลายประเภท เช่นการ ใช้ Sub Query แบบ Sub Select ด้วยการ WHERE IN หรือว่าการใช้ = Sub Query ซึ่งสามารถ Apply ประยุกต์การใช้งานได้หลากหลายรุปแบบ ส่วนวิธีไหนเร็วกว่ากว่ากันนั้นก็ขึ้นอยู่กับว่า ตอนที่ Query หรือ Join กันนั้นมีการภูก Key หรือ Index ครบถูกต้องหรือไม่ รวมทั้งสภาพแวดล้อมอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น ขนาดของ Database , Rows, CPU, RAM ก็ล้วนมีผลกับ Query ทั้งสิ้น
แม้ว่าการใช้ Sub Query จะมีข้อเสียเยอะ เพราะก็เหมือนว่า Query ทำงานหลายๆ ครั้ง แต่เมื่อ Result ที่อยากได้ในบางครั้งซับซ้อนเกินกว่าจะใช้การ JOIN ด้วย Query ในครั้งเดียว ดังนั้นการใช้ Sub Query จึงเป็นทางเลือกหนึ่งที่เป็นเรื่องปกติสำหรับการเขียน Query
Syntax
SELECT t1.*,t2.* FROM table1 t1
INNER JOIN (SELECT * FROM table2) t2
จากรูปแบบของ Syntax จะเห็ว่า Query แรกจาก table2 ถูกนำไป Query อีกครั้งแล้ว Join กับ table1
ในตัวอย่างนี้จะยกตัวอย่างการเขียน Sub Select แบบง่าย ๆ (เพื่อให้เข้าใจวิธีการเขียน ซึ่งในกรณีที่ใช้งานจริง อาจจะใช้การ Join โดยไม่ต้องใช้ Sub Query เลยก็ได้ แต่ตัวอย่างนี้ย้ำว่าเพื่อให้เข้าใจรูปแบบการเขียนเท่านั้น)
รูปแบบการใช้งาน Sub Query
การใช้ Sub Query แบบ WHERE IN
SELECT column
FROM table1
WHERE column IN (SELECT column
FROM table2
WHERE condition)
การใช้ Sub Query เพื่อ Select ค่า
SELECT column = (SELECT column FROM table2 WHERE condition), column2, ....
FROM table1
WEHRE condition
การอัพเดดแบบ Sub Query ด้วยการ Select ค่าจาก table อื่น
UPDATE table2 SET column = (SELECT column FROM table2 WHERE condition)
WEHRE condition
การใช้ Sub Query แบบ Join กันระหว่าง 2 Table
SELECT t1.Column1, t1.Column2,
ColumnNew = (SELECT COUNT(t2.Column2) FROM table2 t2 WHERE t2.Colum1 = t1.Colum1)
FROM table1 t1
ตัวอย่างการใช้ Sub Query ด้วยการ Join
Table : customer
Table : country
Table : audit
Ex1 : การใช้ Sub Query แบบหลาย ๆ ชั้น
Step 1 : เราจะลองมาหาค่า Budget ของแต่ล่ะ Country ว่ามีค่า MAX เป็นเท่าไหร่
SELECT CountryCode, MAX(Budget) AS Budget
FROM customer GROUP BY CountryCode
ผลลัพธ์ที่ได้
Step 2 : นำ Query แรกไปใช้กับ Query ที่สอง
SELECT c1.CustomerID, c1.Name, c2.CountryCode, c2.Budget FROM customer c1
INNER JOIN
(SELECT CountryCode, MAX(Budget) AS Budget
FROM customer GROUP BY CountryCode) c2 ON c1.CountryCode = c2.CountryCode
AND c1.Budget = c2.Budget
เมื่อนำ Query แรกไปใช้งานต่อ ด้วยการ Join กับ Customer
จะได้ค่าแต่ล่ะ CountryCode มี Customer ชื่ออะไร ที่มี Budget สูงสุด
นอกจากนี้เรายังสามารถนำ Query , Su Query ไป Join เป็น Sub Query ได้อีกหลายๆ ชั้น
เช่น
SELECT c3.CountryCode, c4.CountryName, c3.Budget
FROM country c4
INNER JOIN
(SELECT c1.CustomerID, c1.Name, c2.CountryCode, c2.Budget FROM customer c1
INNER JOIN
(SELECT CountryCode, MAX(Budget) AS Budget
FROM customer GROUP BY CountryCode) c2 ON c1.CountryCode = c2.CountryCode
AND c1.Budget = c2.Budget)
c3 ON c4.CountryCode = c3.CountryCode;
ค่าที่ได้จากการ Join ด้วย Sub Query
Step 2 :การใช้ Sub Query ในรูปแบบอื่นๆ เช่นการหาค่า COUNT, MAX, MIN
จากข้อมูลนี้ เราจะมานับจำนวน Transaction ของแต่ล่ะ CustomerID
SELECT CustomerID, COUNT(AuditID) AS NumCount
FROM audit GROUP BY CustomerID
ผลลัพธ์ที่ได้
SELECT MAX(t1.NumCount) AS MaxAudit, MIN(NumCount) AS MinAudit FROM
(SELECT CustomerID, COUNT(AuditID) AS NumCount
FROM audit GROUP BY CustomerID) t1
การหา MAX, MIN จาก Sub Query
|
|
|
|
|
|
|
|
By : |
TC Admin
|
|
Article : |
บทความเป็นการเขียนโดยสมาชิก หากมีปัญหาเรื่องลิขสิทธิ์ กรุณาแจ้งให้ทาง webmaster ทราบด้วยครับ |
|
Score Rating : |
|
|
Create Date : |
2017-04-04 |
|
Download : |
No files |
|
Sponsored Links |
|
|
|
|
|
|