|
|
|
vb กับ vb.net ต่างไงครับ รบกวนหน่อยครับvb กับ vb.net ต่างกันไงครับ แล้วในอนาคตการทำงานอันไหนน่าเล่นกว่าครับ ขอบคุนมากๆๆครับ |
|
|
|
|
|
|
|
vb เขียนสั้นกว่า
vb.net เพราะ .net ต่อท้ายเลยเขียนยาวกว่า
แต่ถ้าจะหัดเขียนอย่าไปเขียนเลย vb น่ะ
|
|
|
|
|
Date :
2010-04-20 10:57:30 |
By :
tungman |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
กำ
เข้าใจคือ vb คือโปรแกรม Develop ment
.net คือ ภาษาที่ใช้เขียน
ถูกป่าวหว่า
แต่ทำไม ไม่น่าเรียนล่ะ vb สนุกดีออก หรือมันห่วยแตก หรือ มีอย่างอื่นดีกว่า บอกหน่อยๆ
|
|
|
|
|
Date :
2010-04-20 15:00:21 |
By :
bloodybit |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
เป็นสาระก็ได้
vb หรือ vb6 เป็นภาษาโปรแกรมแบบ gui ซึ่งพัฒนามาจากภาษา basic มีลักษณะเป็น module
ส่วน vb.net ก็เป็นภาษาโปรแกรมแบบ gui เพียงแต่ว่ามันจะทำงานภายใต้ .net framework ซึ่งมี library ให้ใช้มากมาย และเป็น oop
ที่ไม่แนะนำให้ฝึก vb ก็เพราะว่าไม่อยากใช้เขียนเป็นภาษาเดียว ถ้าหัด c# ก็สามารถเรียนรู้ภาษาอื่นๆ ได้เร็ว vb.net ก็จะเป็นเองโดยไม่ต้องเรียน
และภาษาตระกูล c ทั้งหลายไม่ว่าจะเป็น java (ตัวนี้ได้เต็มๆ ไม่เคยเขียนแต่อ่านโค้ดรู้เรื่อง) c++ php ก็สามารถจะทำความเข้าใจได้ง่าย มากกว่าคนที่เป็น vb อย่างเดียว
ถ้าเป็น c# จะได้ vb.net เป็นของแถมเลย แล้วจะไปเรียนของแถมทำไม
คนเขียน c# ส่วนใหญ่เป็น vb.net ด้วย
แต่คนเขียน vb.net ส่วนใหญ่ไม่เป็น c# (เพราะถ้าเป็นเขาก็ไม่เขียน vb.net น่ะสิ)
|
|
|
|
|
Date :
2010-04-20 15:19:58 |
By :
tungman |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
แสดงว่าผมต้องเรียน c# ช่ายไหมครับ
พอดีจะศึกษาด้วยตัวเองครับ
ไม่ทราบว่าจะเริ่มยังไงหรืออ่านหนังสือเล่มไหนครับ
ขอบคุนอีกครั้งครับ
|
|
|
|
|
Date :
2010-04-20 16:35:37 |
By :
virusteam |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
VB.NET สามารถใช้งานได้ง่ายกว่า เพราะมีตัวช่วยเยอะ และทำงานได้หลากหลายกว่า ตัว vb นะ เท่าที่
ลองเขียนดู แต่ถ้าคนที่ไม่มี เบสของโปรแกรมเลยลองอ่านหนังสือของคุณ ลาภลอย วานิชอังกูร :เรียนรู้
ด้วยตัวเอง OOP c#ASP.NET ดูนะคะ
เท่าที่รู้นะคะ
|
|
|
|
|
Date :
2010-04-20 17:07:36 |
By :
ELLE Jung |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
ไปเรียน C ก่อนครับ
|
|
|
|
|
Date :
2010-08-12 04:12:25 |
By :
MAIBAZA |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
เอาง่ายๆ ขี้เกียจพิมพ์ เมื่อกี้พิมพ์แล้ว โพสไม่ติด
VB = Application --> เขียนโปรแกรมแล้วไม่สามารถนำไปรันบนเว็บได้
VB.NET = Web Application -> เขียนโปรแกรมแล้วนำไปรันบนเว็บได้
VB.NET พัฒนามาจาก VB จึงไม่แปลกเลยที่การเขียน Code จะคล้ายๆกัน แต่ก็มีบางคำสั่ง ที่ไม่เหมือนกัน และไม่สามารถใช้ร่วมกันได้
เพราะ VB.NET ได้ทำงานบน แพล็ตฟอร์มแบบใหม่ของ Microsoft เรียกว่า .NET Framework
VB.NET จึงเปรียบเหมือน Class ลูก ที่สืบทอดมาจาก Class พ่อ นั่นก็คือ VB นั่นเอง แต่Class ลูก สามารถเขียนรายละเอียดเพิ่มความสามารถต่างๆได้มากกว่าคลาสพ่อ หากใครเคยดู Dragon Ball VB ก็เหมือน Super เซย่า ร่าง 1 ส่วน VB.NET ก็เหมือน Super เซย่าร่าง 2 เหมือนร่าง1 ทุกประการ แต่เก่งกว่าร่าง1 และความสามารถก็เยอะกว่า จากเคยปล่อยแต่พลังคลื่นเต่า ก็สามารถปล่อยบอลเกงกิได้ เอ้ยย ออกนอกทางล่ะ กลับเข้าเรื่องต่อ ความสามารถที่เหนือกว่าก็คือ
1.เขียนโปรแกรมแล้วนำไปรันบนเว็บได้
2.เขียนโปรแกรมสำหรับโทรศัพท์มือถือที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Windows Mobile หรือเขียนโปรแกรมสำหรับ Pocket PC ได้ (สมัยนี้กำลังฮิตมือถือแบบนี้กัน)
3. VB.NET เน้นความเป็น OOP แล้ว
4.โปรแกรมที่ใช้เขียน VB.NET ดีกว่า VB
โอ้ยยยย ๆ เยอะแต่นึกไม่ออก
สรุป VB.NET ดีกว่าเยอะ
แต่ VB.NET ก็คือ ลูกของ VB เพราะฉนั้นพ่อแก่แล้วเขาจึงไม่พัฒนาพ่อแล้วเพราะอีกไม่นานก็ตาย จึงหันมาพัฒนาลูกเพราะยังเด็กอีกหลายปีกว่าจะตาย
|
ประวัติการแก้ไข 2010-08-12 04:47:25
|
|
|
|
Date :
2010-08-12 04:44:46 |
By :
MAIBAZA |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
VB กับ VB.NET ไม่ใช่ลูกพ่อกันเลยค่ะ แทบจะไม่เกี่ยวอะไรกันเลยมีเพียง reserve บางคำที่ยกมาใช้เท่านั้น
แนวคิดวิธีคิดก็คนละอย่าง vb.net เป็น OOP language เต็มรูปแบบ ต้องคิดล่วงหน้าวางแผนให้ดี
ไม่ใช่ด้นสดๆไปเรื่อยๆ
|
|
|
|
|
Date :
2010-08-12 05:41:01 |
By :
blurEyes |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
vb = app/web ใน asp classic ใช้ vb ในส่วนของ server script
vb.net = app/web เช่นกัน เป็น oop แบบ weak type ค่อนมาทาง strong type ซึ่งไม่เหมือน vb
|
|
|
|
|
Date :
2010-08-12 10:50:41 |
By :
tungman |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
VB.net ทำงานช้ากว่า VB6 อย่างเห็นได้ชัดครับ ถ้าใช้ Database เป็น Access,หรือ SQL2000 จะทำงานช้ากว่า VB6 มาก ถ้าใช้ SQL2008 จะเร็วขึ้นมาหน่อย แต่ก็ช้ากว่า VB6 อยู่ดีครับ แต่ VB.NET สวยกว่าครับ
|
|
|
|
|
Date :
2011-06-02 12:48:49 |
By :
XSOFT |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
อนาคต VB.net ดีกว่า
|
|
|
|
|
Date :
2011-06-05 17:12:14 |
By :
artchenko |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
ขอถามเพิ่ม น่ะครับ
เกี่ยวกับ VB และ VB.NET, คือว่าผมกำลังศึกษา Visual basic ใน Visual studio 2008 ก็อยากทราบว่าตัวนี้ เรียกว่าเป็นVB.NET หรือเปล่า แบบว่าไม่รู้จริงๆ
ที่ผมพอจะรู้ ก็คือ VB6 ต่อมาก็เป็น VB2000 ต่อมาก็เป็น VB2003 ต่อมาก็เป็นVB2005 ต่อมาก็เป็น VB2008 ต่อมาก็เป็น VB2010
ถ้าจะช่วยอธิบายเกี่ยวกับพวกนี้ว่าอันไหนเป็น VB ธรรมดา อันไหนเป็น VB.NET ด้วยก็จะขอบคุณมาก ๆ (แบบว่ามือใหม่จริงๆ)
|
|
|
|
|
Date :
2011-06-05 19:08:25 |
By :
silly-silly |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
VB คำย่อ มาจาก Visual Basic รู้จักกันในนามผู้เขียนโปรแกรมคือภาษาเบสิก ซึ่งที่นิยมก็คือ VB6 แหละนะ แนวคิดการทำงานของภาษาเบสิกนี้คือ ทำงานภายใต้ OS หรือวินโดวส์นั่นแหละถ้าเอาแบบเข้าใจง่าย ๆ ซึ่งตัวภาษาจะมีวินโดวส์เป็นตัวจัดการทรัพยากร แบ่งปันทรัพยากร จัดการข้อผิดพลาด การทำงาน รวมไปถึงความเร็วการทำงาน
ข้อดีคือ > ภาษานี้ค่อนข้างที่จะเก่าและมีผู้ใช้ในไทยจำนวนมาก (แต่สูงอายุหน่อยนะ) ทำให้มี source code แพร่หลาย
ข้อเสียคือ > เนื่องจากว่าเก่ามาก จน api หรือ application programing interface (ส่วนช่วยเหลือให้ติดต่อกับผู้ใช้ง่ายขึ้น) น้อยเนื่องจากว่าปัจจุบัน OS พัฒนาไปไกลแล้ว จึงไม่มีใครทำ api ตัวใหม่ ๆ หรือ platform ใหม่ ๆ ขึ้นมาสำหรับภาษานี้ เช่นไม่รองรับลีนุ๊ก อะไรทำนองนี้
VB.net เป็นแนวคิดค้นพัฒนาต่อยอดโดยไมโครซอฟ โดยใช้ภาษาเบสิกเช่นเดิม แต่จะมีระบบพื้นฐานที่เรียกว่า Framework เป็นตัวจัดการโปรแกรมแทน OS จัดการโดยตรง โดยใน Vb.net นี้จะมีหลายส่วนย่อย ๆ มาอีก เช่น Console app (โปรแกรมหน้าต่างคอนโซล) Windows app (โปรแกรมแนวอินเตอร์เฟสทั่วๆไป) และ Web app (ซึ่งจะกลายเป็น Asp.net ด้วยภาษา VB) ทำให้ VB.net ค่อนข้างพัฒนาแอพได้หลากหลายมากกว่า มีประสิทธิภาพกว่า ปลอดภัยกว่า เนื่องจาก OS ไม่ต้องจัดการโดยตรง และมี api ให้ใช้เยอะกว่า เนื่องจากค่อนข้างที่จะเป็นปัจจุบัน
สิ่งที่คนมักเข้าใจผิด
VB6 กับ VB.NET เป็นตัวเดียวกันไหม ?
#ตอบ - ไม่เลยครับ แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ตั้งแต่แอพที่ใช้ออกแบบภาษา ส่วนในการจัดการ การคอมไพล์ การทำงานต่างกัน เพียงแต่ syntax หรือรูปแบบภาษายังคงใช้ภาษาเบสิก ซึ่งถ้าคนเขียน Vb.net ไปเขียน Vb6 หรือคนเขียน Vb6 ไปใช้ Vb.net ก็จะเดาได้ไม่ยากเนื่องจากคล้ายคลึงกันสูง
VB6 เป็น OOP หรือเปล่า
#ตอบ - ในแง่คิด ใช่ครับ เพราะ VB6 ถูกออกแบบมาให้มีการจัดการเชิงวัตถุ มีคลาส ฟอร์มและส่วนจัดการอื่น ๆ แต่ทางปฏิบัติไม่ใช่เลย เพราะ VB6 เรียกว่าเป็นระบบ Base management จะดีกว่า ยังไม่มีบางส่วนที่ OOP ควรมี การแยกไลบราลี่ก็ยังทำได้ยาก จะใช้อะไรทีก็ต้องโหลด api ส่วน VB.net ไม่ใช่ มีคลาส api ในตัวเองของ Framework อยู่แล้วครับ
คำถามคือ ควรจะเขียนภาษาไหนดีกว่า ถ้าเลือก 2 ตัวนี้
ตอบเลยครับ VB.NET แน่นอน เนื่องจากใหม่กว่า ฟังชั่นเยอะกว่า api มากกว่า และอัพเดทเรื่อย ๆ จนกว่าวินโดวส์จะเลิกใช้ Framework แหละครับ ซึ่งโอกาศเป็นไปได้ยาก เพราะไมโครซอฟยังยืนยันว่าจะพัฒนา Framework ต่อไปอีกเกิน 20 ปีแน่นอน
ใช้โปรแกรมอะไรเขียน ?
ส่วนใหญ่คนจะใช้ Visual Studio เขียนครับซึ่งแนะนำ รุ่นปี 2010 ขึ้นไป เนื่องจากว่าการเขียนโปรแกรมด้วย .Net Framework 4.0 จะเริ่มต้นตั้งแต่รุ่นนี้ครับ ต่ำกว่านี้ยังไม่รองรับ ซึ่งคนมักจะนิยมใช้ 2.0-4.0 ยิ่งรุ่น Framework สูงก็ยิ่งมีฟังชั่นใหม่ๆ ลูกเล่นเยอะ แต่ก็แลกกับการสนับสนุน ถ้าจำไม่ผิด Xp จะไม่รองรับ 4.5.1 ด้วยแหละ : ) ถ้าเลือกได้ แนะนำใช้ 2013 จะมี .Net 4.5 ซึ่งถ้าเขียนเชิงลึกแล้ว จะมีคำสั่งที่เรียกว่า Multi-Tasking ซึ่งใช้ในการจัดสรรทรัพยากรคอม จัดการแรมได้แม่นยำมาก ๆ และโปรแกรมเราจะทำงานเร็วมาก ซึ่งเร็วกว่า VB6 ประมาณ 6-7 เท่าได้เลยครับ (ถ้าคุณบ้าพอที่จะนั่งงมโค้ดตรงนี้ทั้งอาทิตย์)
ใน Visual Studio ยังประกอบไปด้วยภาษา C++ , C# , Python , JavaScript และ F# อีกด้วย
ถ้าคุณไม่ได้เขียนแอพที่ถึงระดับไดร์ฟเวอร์คอมฯละก็ ไม่ว่าจะเขียน Java , C# , VB.NET ก็ไม่ต่างกันมากเท่าไรครับ
อยู่ที่เราออกแบบอัลกอริทึมและจัดสรรทรัพยากรมากกว่าครับผม ...
|
|
|
|
|
Date :
2016-04-04 05:37:00 |
By :
VK`Allstar |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
Load balance : Server 04
|