การนับจำนวนคำว่าเท่าไรแล้วที่เป็นภาษาไทย ทำยังไงได้บ้าง
เหมือนตอนที่พิมพ์งานใน MS Word ที่มันนับจำนวนคำครับ
Date :
2015-05-15 14:29:36
By :
anomater
เงียบเหงาจัง
Date :
2015-05-15 17:05:01
By :
anomater
วิธีการแบบเคร่าๆ
echo strlen( $text ) / 4; (เฉพาะ ภาษาไทย)
ภาษาอังกฤษ หาร 5
Date :
2015-05-15 22:10:42
By :
Chaidhanan
มีใครช่วยละเอียดกว่านี้หน่อยได้ไหมครับ
พอดีไม่เข้าใจ ผมใช้ asp.net vb นะครับ
ขอบคุณมากนะครับคุณ Chaidhanan
Date :
2015-05-16 07:06:07
By :
anomater
' Initializes variable.
Dim TestString As String = "การทำงานที่ได้รับ"
Dim TestLen As Integer = Len(TestString) / 4
Date :
2015-05-16 07:12:24
By :
Chaidhanan
สิ่งที่คุณขอนั้นเหมือนจะง่าย ๆ แต่ขอโทษเลือดตาแทบกระเด็นครับ
เปรียบประมาณว่า
ผมเสียบกุญแจรถเข้ารูกุญแจบิดเข้าไป รถมันก็สตาร์ท แหมง่ายจังเลย
เอาล่ะผมอยากจะลองสร้างรถดูมั่ง ทำยังไงน้ามีใครทำให้ดูหรือแนะนำได้มิล่ะครัช
ภาษาไทยเป็นภาษาที่ซับซ้อนการแบ่งแยกคำนั้นใช้พจนานุกรมอย่างเดียวไม่พอ
ยังต้องมีการเดาความหมายแบบคร่าวๆด้วยน่ะครับ
สรุปมันยากระดับ AA ครับ แต่มีคน(ทีม)ที่ทำได้อยู่
ดังที่ทีมงานมิโคงซอน์ฟจับมาเสนอในเวิร์ดดังยกตัวอย่างมา
ถ้าค้นคว้าเพียงพอก็น่าจะทำได้นะ
ปล. ขอเรียนตามตรงการที่อยู่ๆก็เอา string length มา /4 นี่ออกจะเป็นวิธีตัดทอนแบบดื้อๆสะงั้นนะครัช
มันไม่น่าจะมีนัยะทางสถิติอะไร
เท่าที่เคยผ่านๆตาทีมงานที่เคยพัฒนาระบบภาษาไทยให้ linux ถ้าจำไม่ผิดเป็นโลมามั้งนะ
เคยเสนอ regex ยาวๆชุดนึงที่พอจะตัดคำไทยออกมาโดยไม่ต้องใช้พจนานุกรม
แต่นั่นเขาใช้การประมวลทางสถิติการสะกดภาษาไทยเอามาประยุกต์ใช้กัน
ส่วน regex จะเป็นยังไง ไม่ทราบด้วยเพราะนานมาแล้ว
สมัยที่ .net ยังฟอร์มตัวในรังไข่ของ delphi เลยมั้ง ครัช
Date :
2015-05-20 00:33:39
By :
DOG{B}
ถ้ามีเงื่อนไขที่แน่นอนคงเขียนคำณวนให้ได้ครับ แต่บอกตามตรงผมคิดไม่ออกว่าจะแยกคำพูดไทยออกยังไงว่าแต่ละคำออกจากประโยคยังไง
ยกตัวอย่างเช่น "อยากได้มะกอก 3 ลูก" <<< มะกอกจะถือว่าเป็นคำเดียว หรือ สองคำครับ
แม้แต่ใน word ที่เอาภาพมาประกอบยังนับผิดนับถูกเลยครับ ถ้าจะคิดให้ทำไงถึงจะนับได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุดตัวโปรแกรมจะต้องมีฐานข้อมูลคำศัพท์ที่ต้องไปแยกแต่ละคำแล้วไปเปรียบเทียบละมั้ง เท่านั้นยังไม่พอเปรียบเทียบแต่ละคำแล้วยังต้องเปรียบเทียบทั้งประโยคด้วย
เพื่อตรวจสอบว่าความหมายมันไม่ออกมาแปลกๆ แนวคิดก็ประมาณนี้แหละครับ >_<
Date :
2015-05-20 00:52:13
By :
deksoke
Code
https://www.thaicreate.com/php/forum/107037.html
วิธีการตัดคำภาษาไทย โดยใช้ dict
Convert Java to c# line by line By love9713
Convert c# to vb ไม่จำเป็น และคิดว่าไม่น่าจะเกินความสามารถของคุณ
ตัวอย่างการใช้งาน VB
Code (VB.NET)
Dim Tokenizer As New LongLexTo("Self")
'LongLexTo Tokenizer = new LongLexTo(System.IO.File.OpenText("lexitron.txt"));
If System.IO.File.Exists("unknown.txt") Then
Dim unknownFile As System.IO.StreamReader = System.IO.File.OpenText("unknown.txt")
Tokenizer.addDict(unknownFile)
End If
Dim typeList As ArrayList
Dim begin As Integer, [end] As Integer, type As Integer
Dim line As [String] = "อยู่ดีชอบกินหอย"
Tokenizer.addDict("อยู่ดี")
Tokenizer.addDict("ชอบ")
Tokenizer.addDict("กินหอย")
If File.Exists("Jim.txt") Then
Try
File.Delete("Jim.txt")
Catch generatedExceptionName As Exception
Throw New Exception("Cann't delete Jim.txt file.")
End Try
End If
'Write test file.
Using fs As FileStream = File.Create("Jim.txt", 1024)
Dim info As [Byte]() = New System.Text.UTF8Encoding(True).GetBytes("ภาษาไทย This is some text in the file.")
fs.Write(info, 0, info.Length)
End Using
Tokenizer.wordInstance(line)
typeList = Tokenizer.getTypeList()
begin = Tokenizer.first()
Dim i As Integer = 0
Dim result As [String] = ""
While Tokenizer.hasNext()
[end] = Tokenizer.[next]()
type = CShort(typeList(i))
result += line.Substring(begin, [end] - begin) + "|"
begin = [end]
End While
System.Windows.Forms.MessageBox.Show(result)
ตัวอย่างการใช้งาน C#
Code (C#)
//
//ทดสอบ โปรแกรม
//
private void button1_Click(object sender, EventArgs e)
{
LongLexTo Tokenizer = new LongLexTo("Self");
//LongLexTo Tokenizer = new LongLexTo(System.IO.File.OpenText("lexitron.txt"));
if (System.IO.File.Exists("unknown.txt")) {
System.IO.StreamReader unknownFile = System.IO.File.OpenText("unknown.txt");
Tokenizer.addDict(unknownFile);
}
ArrayList typeList;
int begin, end, type;
String line = "อยู่ดีชอบกินหอย";
Tokenizer.addDict("อยู่ดี");
Tokenizer.addDict("ชอบ");
Tokenizer.addDict("กินหอย");
if (File.Exists("Jim.txt")) {
try {
File.Delete("Jim.txt");
}
catch (Exception) {
throw new Exception("Cann't delete Jim.txt file.");
}
}
//Write test file.
using (FileStream fs = File.Create("Jim.txt", 1024)) {
Byte[] info = new System.Text.UTF8Encoding(true).GetBytes("ภาษาไทย This is some text in the file.");
fs.Write(info, 0, info.Length);
}
Tokenizer.wordInstance(line);
typeList = Tokenizer.getTypeList();
begin = Tokenizer.first();
int i = 0;
String result = "";
while (Tokenizer.hasNext()) {
end = Tokenizer.next();
type = (short)typeList[i];
result += line.Substring(begin, end - begin) + "|";
begin = end;
}
System.Windows.Forms.MessageBox.Show(result);
}
ผลลัพท์ result = อยู่ดี|ชอบ|กินหอย|
Date :
2015-05-20 10:10:47
By :
lovemelovemycat
ผมนึกว่าไม่มีใครตอบแล้วไม่ได้เข้ามาดูคำตอบตั้งนาน แต่ละท่านตอบมาได้แนวคิดมากครับ ผมเข้าใจมันยาก
ส่วนคนที่เป็น Guest ผมไม่รู้ว่าจะส่ง [ ส่งคำขอบคุณ ] ยังไงก็ขอขอบคุณทุกท่านครับ
Date :
2015-05-26 18:03:51
By :
anomater
ผมก็แค่เอาหลักการของไมโครซอฟท์ ที่เจ้าของกระทูกนำมาถามเท่านั้นแหล่ะครับ
เป็นวิธีการแบบเคร่าๆ ในการนับคำ แบบพิมพ์ดีดจับความเร็ว
ซื่งการนับคำภาษาไทยแม้แต่การอ้างอิงพจนานุกรม การนับแบบละเอียดยังยากเลย
มันมีคำที่เขียนเหมือนกันแต่คนละความหมายอยู่เยอะในภาษาไทย
"หายนะ" แค่ข้อความนี้ จะเขียนโปรแกรมให้นับคำละเอียดยังยากเลยครับ
หาย - นะ
หายนะ (หา-ยะ-นะ)
ซึ่งมันคนละความหมายเลย
มันต้องประกอบกับความหมายของคำก่อนหน้า ทั้งประโยค ทั้งวรรค ถึงจะรู้ความหมายของมันจริง
อย่าวางของไว้ตรงนั้น หายนะ
เอาไฟ้ไปใกล้น้ำมัน เฮอะๆๆ หายนะ
Date :
2015-05-26 18:38:10
By :
Chaidhanan
ทันทีที่ถึงคาเมล็อต ความวุ่นวายก็ถาโถมใส่ฉันไม่หยุดหย่อน อย่าว่าแต่ฉันเลย คนรอบกายฉันก็เช่นกัน ในหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมาทุกคนวิ่งวุ่นทำงานสืบเสาะกันหัวหมุนมือแทบเป็นระวิง แต่ละคนไม่ได้คุยกันด้วยซ้ำในแต่ละวัน แค่สบตากันให้หายคิดถึงก็มากพอแล้วในตอนนี้
แน่นอน ท้ายประโยคด้านบนหมายถึงฉันกับอาเธอร์เท่านั้นแหละ
“องค์ราชินี ประชุมด่วนที่หอสมุดโบราณพ่ะย่ะค่ะ” ฉันกลอกตาขึ้นบนอย่างเหนื่อยหน่าย วางเอกสารในมือแล้วเดินไปแตะไหล่บางของยูคิอิที่อาสามาตามเองในครั้งนี้
ใช่ ในครั้งนี้ เพราะการประชุมด่วนเกิดขึ้นบ่อยมากในหลายๆที่ทั่วอาณาเขตราชวัง ที่จำเป็นต้องเปลี่ยนสถานที่ไปเรื่อยเพราะหลีกเลี่ยงการโดนล้วงข้อมูลหรือดักฟังไงล่ะ
“ไปเถอะ ฉันพร้อมแล้ว” โลกถูกฉีกเป็นครั้งที่สองในรอบวัน เราทั้งคู่วาร์ปมาในหอสมุดโบราณอันเป็นที่สิงสถิตประจำของยูคิอิและอาจารย์เมอร์ลิน ฉันเดินลากเท้าแบบเอื่อย ๆ ลืมสิ้นแล้วกิริยามารยาท ก่อนจะนั่งลงบนเก้าอี้บุนวมแดงหรูหราตรงหัวโต๊ะประชุมขนาดใหญ่ ทุกคนมาพร้อมกันหมดแล้วขาดแต่วินเซนต์และ...
“อาเธอร์” ฉันหลุดชื่อคนที่ไม่ได้พบหน้าตั้งแต่เช้า เพราะเมื่อฉันตื่นขึ้นมาความอบอุ่นที่แนบชิดเมื่อคืนก็หายไปแล้ว
ทำไมยังไม่มานะ?
“วินเซนต์ไปตามองค์ราชาอยู่พ่ะย่ะค่ะองค์ราชินี” รอยซ์ที่นั่งเยื้องจากฉันไปนิดหน่อยเอ่ยบอกฉันที่นั่งขมวดคิ้วยุ่ง ฉันพยักหน้ารับและเผยอยิ้มบาง ๆ ให้ทุกคนคลายความเครียด โดยเฉพาะเอ็ดมันต์ นั้นคิ้วเขาจะผูกกันเป็นเงื่อนได้อยู่แล้วนะ มีอะไรกวนใจเขาหรือปล่าว ? ฉันหันไปรับข้อมูลการประชุมจากเซเรียมาอ่านคร่าว ๆ
ตอนนี้เราเริ่มสืบเสาะเรื่องมังกรตัวนั้นและชายชุดดำ ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเป็นงานที่หินมาก เพราะตอนที่ฉันกับอาเธอร์ไปเกาะทางใต้ สถานการณ์ทางนี้ก็เริ่มวุ่นวายแล้ว เหมือนรู้ว่าเราทั้งคู่ไม่อยู่เมืองจึงลงมือก่อความวุ่ยวาย
อืม ช่างเป็นการลอบกัดที่ขี้ขลาดชะมัดเลยว่าไหม ?
“องค์ราชา” ทุกคนลุกขึ้นให้อาเธอร์เดินมานั่งก่อน เมื่ออาเธอร์นั่งฉันจึงนั่งลงบ้าง ตามด้วยทุกคนในห้อง วินเซนต์นั่งลงเป็นคนสุดท้ายเพราะเพิ่งเดินมาถึง ในเวลาแบบนี้อาเธอร์เป็นคนบอกทุกคนเองว่าไม่ต้องพิธีรีตองมากนัก ฉันเริ่มอธิบายและจัดแจงมอบหมายหน้าที่ให้ทุก ๆ คนโดยมีอาเธอร์คอยช่วยบอกข้อมูลเพิ่มเติมอยู่เรื่อย ๆ
“มีใครสงสัยตรงไหนไหมคะ ? ” ฉันพับเอกสารในมือแล้วเอ่ยถามขึ้น ผ่านไปครู่นึงก็ยังเงียบกริบ ทุกคนคล้ายจมอยู่กับข้อมูลที่เพิ่งได้รับเข้าหัวไป
“ถ้าไม่มีแล้ว ฉันขอตัวก่อน” อาเธอร์พูดจบก็กระวีกระวาดออกไปทันที ฉันไม่ได้รั้งเขาไว้ ได้แต่ใช้ดวงตากลมมองไปจนสิ้นเสียงปิดประตู
รีบไปไหนของเขากันน่ะ
ฉันเหลือบไปมองวินเซนต์ที่นั่งยุกยิกและใช้สายตามองตามหลังอาเธอร์ไปเช่นเดียวกันกับฉัน ดวงตากลมของฉันหรี่ลงนิดๆ ฉันสั่งให้ทุกคนออกไปให้หมด วินเซนซ์ลุกขึ้นพุ่งไปจับลูกบิดประตูทันที
“ยกเว้นนาย วินซ์” อาการสะดุ้งเล็กๆตอนฉันเรียก ใบหน้าคมคร้ามที่ปิดอาการตกใจไว้ไม่มิด สิ่งที่เกิดขึ้นจากปฏิกิริยาของเขาทำให้มั่นใจเข้าไปอีก “ออกไปก่อนเซเรีย ฉันต้องการคุยกันตามลำพัง” เซเรียนิ่งไปนิด ก่อนจะก้มศีรษะแล้วเดินออกไป วินเซนต์ตีหน้าปูเลี่ยนแบบคนมีพิรุธ
ปิดปังอะไรฉันอยู่วินเซนต์ แล้วไปสนิทกับอาเธอร์ตอนไหน?
“ลูลู คือ...เอ่อ” ฉันทำเพียงนิ่งเงียบรอฟังคำอธิบายจากปากคนร้อนตัว วินเซนต์พยายามอธิบายทันทีที่ทุกคนออกไปโดยไม่ต้องรอให้ฉันถาม อาจเพราะแววตาฉันคงถามทุกอย่างเองแล้วกระมัง คนตรงหน้าจึงชิงอธิบายก่อน
ก็ดี ไม่เสียเวลา
“ฉันแค่สงสัยน่ะ เลยแอบตามอาเธอร์ ฉันไม่ได้ประสงค์ร้ายอะไรองค์ราชาของลูลูเลยนะ แต่ตอนนี้ลูลูไม่เห็นเหรอว่าหมอนั่...อาเธอร์แปลกไปขนาดไหน” ฉันกระแอมขัดไปที่นึงตอนที่วินเซนต์ใช้คำพูดผิด นั้นมันตัวฉันอีกคนนะ เรียกดี ๆ สิ !
แล้วคำว่าองค์ราชาของลูลูนั้นมันอะไรกัน
ถึงมันจะเป็นเรื่องจริงก็เถอะนะ
“แล้วได้เรื่องอะไรไหมคะวินซ์” ฉันลุกขึ้นยืนแล้วถามออกไป “ตามมากี่วันแล้ว งานการไม่ทำหรือไง ?” ฉันแอบแขวะเล็กน้อย วินเซนต์ยิ้มแหย ก่อนจะนั่งลงเพราะรู้ตัวว่าคงโดนซักฟอกอีกนาน
เอาจริง ๆ เรื่องนี้ผิดแผกจากความคาดหมายไปหน่อย สรุปวินเซนต์ไม่ได้สนิทกับอาเธอร์สินะ แค่สงสัยเลยไปเกาะติดชีวิตอาเธอร์เท่านั้น เหตุผลก็คงเป็นแบบที่เคยบอกฉันเมื่อตอนอยู่เกาะใต้ คือกลัวจะมีหนอนนั้นแหละ แต่ฉันมั่นใจว่าตัวฉันอีกคนไม่ใช่หนอน แต่ฉันจะมั่นใจคนเดียวไม่ได้ ตัวฉันอีกคนต้องทำให้คนอื่นมั่นใจในตัวเขาเองด้วยละนะ
“ฉ ฉัน เอ่อ” ฉันลอบยิ้มขำ วินเซนต์แม่ทัพผู้แข็งแกร่งไปไหนแล้วนะ ตรงหน้าฉันตอนนี้มีแต่ผู้ชายที่ดูทำตัวไม่ถูกเมื่อโดนจี้ให้ตอบคำถามเท่านั้น
“ตามมานานเท่าไหร่แล้ว?” ฉันเปิดประเด็นถาม ตั้งใจจะซักฟอกทุกอย่าง ผงซักฟอกยี่ห้อดังๆของโลกที่ฉันจากมาก็คงเทียบฉันในเวลานี้ไม่ได้
“สามวัน”
“อาเธอร์ทำอะไรมีพิรุธบ้าง ? ”
“ยังไม่มี ทำงานปกติ”
“แล้ววันนี้จะตามไปที่ไหน ? ”
“เห็นว่าอาเธอร์จะไปอาณาจักรใกล้ ๆ นี้”
“ที่ไหน” ฉันจี้ถามเพราะต้องการคำตอบที่แน่ชัด
“แถวๆนี้” แต่ดูเหมือนคนตรงหน้าจะไม่เข้าใจจุดประสงค์ฉันเมื่อกี้เลยนะ หรืออีกนัยคือเข้าใจแต่เลือกที่จะเมินเฉยและปกปิด ฉันไม่ซักต่อทำเพียงมองเงียบๆ
“...”
“เมืองเหนือ” ความเงียบและการกดดันของฉันคงเป็นผล และคำตอบก็เป็นที่น่าพอใจ “งานการของเจ้าละ?” ฉันแกล้งถามอีกครั้ง แทบจะกลั้นขำไม่ได้เมื่อดวงตาคมมีแววเกรงๆ คงกลัวจะต้องไปขัดคอกม้าอีกกระมัง “ช่างเถอะ ข้าจะยอมให้อภัยในส่วนนี้” รอยยิ้มที่ล่อลวงสาวๆได้ครึ่งอาณาจักรถูกประดับบนใบหน้าหล่อเหลาด้วยความดีใจ แต่เมื่อประโยคถัดไปของฉันลอยไปเข้าโสตประสาท รอยยิ้มนั้นก็แปรเปลี่ยนทันที “แต่โทษครั้งนี้จะได้รับการอภัยต่อเมื่อ...ข้าได้ไปสืบเสาะกับเจ้าด้วย”
“ลูลู ! ”
“หืม ว่าไงคะท่านแม่ทัพวินเซนต์” ความกดดันส่งผ่านรอยยิ้มอ่อนโยนของฉัน วินเซนต์ถอนหายใจเฮือกใหญ่
แน่นอน ทุกอย่างต้องเป็นไปตามที่ฉันคิดไว้อยู่แล้ว ลูกพี่ลูกน้องคนนี้เคยขัดใจฉันเสียที่ไหนละ
เอ๋ ใครลูกพี่ลูกน้องฉันนะเหรอ ? ก็วินเซนต์ไงละ ฉันเองก็เพิ่งรู้จากอาจารย์เหมือนกัน เพราะงี้เวลาอยู่ด้วยกันเราจึงมักจะผ่อนคลายและไม่เป็นทางการ
แต่ตอนนี้เรื่องนั้นไม่ใช่ประเด็นหรอกนะ มีเรื่องต้องจัดการก่อน
ฉันเดินไปเปิดประตูโดยให้วินเซนต์เดินตาม ตรงราวระเบียงปรากฏร่างของราชองครักษ์ฉันยืนรออย่างสงบนิ่ง ในมือถือช็อกโกแลตและกัดกินอย่างอร่อย เมื่อเซเรียได้ยินเสียงเปิดประตูจึงโยนที่เหลือเข้าปากแล้วคำนับฉัน
ชอบของหวานและกินแต่ขนมแบบนั้นทำไมเธอถึงไม่เคยอ้วนเลยนะเซเรีย ดูฉันสิ แค่หายใจก็อ้วนแล้ว
ก็ว่าไปนั้น
ปัญหาคือฉันจะสลัดเซเรียออกยังไง ราชองครักษ์ผู้ภักดีที่แทบจะไม่ห่างกายฉันเลย ทำยังไงให้เธอไม่ตามติดฉันแบบนี้ ตอนแรกคิดว่าจะแกล้งเป็นลม แต่ถ้าฉันป่วยเธอก็ต้องดูแลฉันอยู่ดี ฉันเหลือบมองใบหน้าสวยที่มีรอยเปื้อนช็อกโกแลตตรงมุมปาก ฉันแอบลอบยิ้ม
“เซเรีย ฉันเหนื่อยมากเลยละ ว่ากันว่าน้ำตาลช่วยลดความตึงเครียดและเหนื่อยล้าใช่ไหม ? ” เซเรียมองอย่างแปลกใจ
“เพคะองค์ราชินี”
“งั้น เราไปหาขนมหวานอร่อยๆกินกันดีกว่า” ดวงตาคู่สวยสีน้ำตาลเบิกขึ้นเล็กน้อย รอยยิ้มเล็กๆที่ถูกจุดขึ้นบนริมฝีปากเปื้อนคราบขนม
เหมือนเด็กเลยนะเซเรีย ถึงเวลาอื่นจะเข้มงวดขนาดไหน แต่เธอก็ยังอ่อนลงเมื่อเจอของที่โปรดปราน
“ไปสิเซเรีย ขอเยอะ ๆ เลยนะ เอาส่วนของเจ้าและวินซ์มาด้วย เดี๋ยวฉันจะให้วินซ์ไปเตรียมชารอที่ห้อง ไปกินด้วยกันในห้องทำงานของฉัน” ฉันโปรยยิ้มมีเสน่ห์ เซเรียทำหน้ากังวลเล็กน้อย แต่เมื่อฉันเอ่ยปากย้ำอีกทีจึงยอมไป
“จะทำอะไรเหรอลูลู ? ” วินเซนต์ขมวดคิ้วตั้งคำถาม
“ในห้องทำงานฉันมีมุมลับๆที่ไว้ปรุงยาและของหอมต่าง ๆ ” ฉันพูดพลางแตะมือลงบนบ่าแกร่ง “มีไม่กี่วิธีที่จะทำให้เซเรียไม่เกาะติดฉัน หนึ่งในวิธีนั้นคือ…” ร่างของเราถูกดูดเข้ามาในห้วงเวลาเพียงเสี้ยวนาที ลืมตาอีกครั้งฉันกับวินซ์ก็อยู่ในโซนปรุงยาหลังตู้หนังสือขนาดใหญ่ของห้องทำงานฉัน
“คือ ? ” วินเซนต์ถามย้ำและมองไปรอบ ๆ อย่างงง ๆ
“หลับไปสักพัก”
หลังจากนั้นหนึ่งชั่วโมง ฉันกับวินเซนต์ก็ปลอมแปลงรูปลักษณ์ภายนอก เสื้อผ้าถูกเปลี่ยนเป็นชุดชาวบ้านธรรมดา ทุกอย่างดูโอเคไปหมด ฉันให้วินเซนต์อุ้มเซเรียที่สลบสไลไปนอนบนโซฟานุ่มนิ่ม และสั่งห้ามทุกคนรบกวนในเวลาทำงานเด็ดขาด เพื่อป้องกันไม่ให้มีคนพรวดพราดเข้ามาในห้องทำงานฉัน ถึงจะล็อคไว้แล้วแต่ก็วางใจไม่ได้ ขืนมีคนเข้าไปเดี๋ยวแผนก็แตกกันพอดี
แต่ดูเหมือนฉันจะมีปัญหาอีกแล้วนะ…
ฉันมองกระจกใบเล็กที่สะท้อนใบหน้าหวานซึ้งที่ฉันหลงรัก ดวงตาสีแดงประกายทอแววอ่อนโยน จมูกสวยเข้าทรงและริมฝีปากบางที่มุมปากยกขึ้นจนดูเหมือนฉันระบายยิ้มตลอดเวลา มองไบ่ไปตามรูปหน้าและเส้นผมสีขาวนวลสวย
ใช่ นั้นแหละปัญหา รูปลักษ์ที่โดดเด่นแบบนี้ต่อให้คลุกฝุ่นมาก็ดูออกว่าเป็นฉัน ผมยังพอปกปิดได้ แต่หน้าตานี้สิ
โลกนี้มีสิ่งที่เรียกว่าแว่นกันแดดหรือปล่าวนะ?
อ่า คงไม่มีหรอก ฉันคิดบ้าบออะไรอยู่
สุดท้ายเราก็ออกกันมาทั้งอย่างนั้น ผมฉันถูกรวบและเก็บในผ้าโพกศีรษะจนมิดชิด และใช้ผ้าตาข่ายบาง ๆ คลุมหน้าไว้ ส่วนวินเซนต์รายนั้นฉันแทบจำไม่ได้ เขาปลอมเป็นพ่อค้าเร่ที่ต้องการนำสินค้าไปขาย การปลอมเป็นพ่อค้าง่ายแก่การลักลอบเข้าเมืองที่สุด เราวาร์ปมาตรงชายแดนที่เชื่อมต่อคาเมล็อตกับเมืองเหนือ มาโผล่บนจุดที่สูงที่สุดในละแวกนี้ ฉันลอบมองจากตรงนี้ถึงได้เห็นว่าเมืองเหนือนั้นเต็มไปด้วยหุบเหวและเทือกเขาน้อยใหญ่ ดวงตากลมกวาดมองแล้วอดจะชื่นชมไม่ได้ สุดท้ายฉันก็แพ้ความอยากรู้อยากเห็น มือบางจับปลายผ้าคลุมแล้วตวัดไปด้านหลัง ความงดงามตามธรรมชาติปรากฏสู่สายตา
เทือกเขาสีเขียวที่ใหญ่ที่สุดทอดยาวล้อมรอบเมืองด้านใน ขับให้พระราชวังที่ประดับประดาด้วยกระเบื้องสีน้ำตาลและอิฐแดงดูโดดเด่น แต่ที่ ๆ พระราชวังนั้นตั้งอยู่คือบนเนินเขาสูง ทำให้ข้าศึกหรือใครก็ตามเข้าถึงยาก นับเป็นการสรรค์สร้างต่อยอดพื้นที่ตามธรรมชาติอย่างชาญฉลาด รอบ ๆ สิ่งก่อสร้างขนาดใหญ่ที่ว่านั้นคือลำคลองกว้างขวางที่เชื่อมต่อเส้นทางการค้าจากทุก ๆ เมือง มีการขุดคูคลองเพื่อกระจายแหล่งน้ำไปตามหมู่บ้านต่าง ๆ ตามริมแม่น้ำคือบ้านเรือนประชากร และสุดท้ายสิ่งที่ปกป้องเมืองไว้รองจากกำแพงธรรมชาติ คือป้อมปราการที่เชื่อมต่อกันเป็นสะพานสูง ก่ออิฐต่อลงมากลายเป็นกำแพงสีอิฐที่หนาแน่นและแข็งแรง ทุกอย่างดูสวยงามและลงตัว ความอุดมสมบูณร์ที่มีมนต์ขลังสะกดให้ฉันยืนมองได้โดยไม่เบื่อ พื้นที่ที่เข้าถึงยากแต่กลับมีเส้นทางการค้าหลากหลายนับเป็นพรจากธรรมชาติอย่างแท้จริง
ฉันหลุดจากภวังค์ความคิดเมื่อได้ยินเสียงวินเซนต์ตะโกนเรียก ร่างสูงโบกมือให้ฉันเข้าไปหา วินซ์เซนต์คงจะจัดการเรื่องการเข้าเมืองได้แล้ว
“ตอนนี้สายของฉันรายงานว่าอาเธอร์อยู่แถวๆนี้เหมือนกัน คงจะอยู่ในตลาดท้ายหมู่บ้านหรือแหล่งพนันสักที่ เรารีบไปกันเถอะ” ฉันพยักหน้าตอบรับก่อนจะเดินตามวินเซนต์ไป ร่างสูงและฉันเดินไปเรื่อย ๆ ใช้เวลาไม่นานนักหมู่บ้านนึงก็ปรากฏสู่สายตา วินเซนต์เดินนำไปจนสุดทาง ท้ายหมู่บ้านคือแหล่งค้าขายขนาดใหญ่ ฉันเดินดูผักสดและผลไม้จนลืมว่าตอนนี้เรามาทำอะไรที่นี้ มนต์เสน่ห์แห่งธรรมชาติที่นี้ช่างอันตราย จนวินเซนต์เดินมาลากฉันให้เข้าไปแหล่งพนันแห่งนึงที่สร้างเป็นโดมทรงกลมประดับด้วยอิฐแดง และแวววาวด้วยกระจกหลากสี
เมื่อเดินเข้ามาสิ่งแรกที่เห็นโดดเด่นคือเวทีที่เป็นพื้นยกสูงตรงกลางห้องขนาดใหญ่ มีเสาแกนพุ่งจากกลางเวทีไปจนสุดโดมหลังคา เสาถูกปิดด้วยผืนผ้าที่แต่งแต้มจนกลายเป็นรูปวาดลายดอกไม้ขนาดใหญ่ มองไปรอบตัวมีโต๊ะอาหารตั้งอยู่อย่างเป็นระเบียบ ผนังตกแต่งด้วยกระเบื้องลายต่าง ๆ มีบันไดเลียบขึ้นไปชั้นสองที่เป็นระเบียงล้อมรอบเวทีด้านล่าง ถ้าอยู่ชั้นสองสามารถมองเห็นชั้นหนึ่งได้ทั้งหมด แต่ผนังชั้นสองถูกตกแต่งด้วยกระจกที่แกะสลักลายอย่างปราณีตและสวยงามกว่าด้านล่างบ่งบอกถึงความมีระดับ ซีกนึงกั้นด้วยผ้าม่านเป็นช่อง ๆ บางช่องก็ปิดอยู่คล้ายมุมส่วนตัว มีโต๊ะอาหารอยู่ด้านใน ชั้นล่างน่าจะเป็นร้านอาหารสำหรับชนชั้นปกติทั่วไป ส่วนชั้นบนมีแต่คนแต่งตัวดีๆคงจะเป็นพวกพ่อค้าหรือลูกเศรษฐี เมื่อมองไปชั้นสามจึงเห็นระเบียงด้านเดียวที่ถูกสร้างเพียงเศษหนึ่งส่วนสี่ของโดมนี้ รูประเบียงเป็นแบบพระจันทร์เสี้ยว แต่ระเบียงถูกอำพรางสายตาด้วยผ้าม่านกำมะหยี่สีแดงเลือดนกขลิบทองแต่งชายผ้าด้วยลูกไม้และพู่สีทองสวยงาม พื้นใต้ระเบียงประดับประดาด้วยกระเบื้องสีเหลืองนวลตาที่ทอแสงอ่อน ๆ ราวกับอาบด้วยแสงจัทร์ หลังคาด้านในถูกย้อมด้วยสีน้ำเงินแก่ มีกระจกขนาดเล็กใหญ่และหลอดไฟขนาดแตกต่างกันแขวนอยู่ ทำให้รู้สึกถึงคืนพระจันทร์เสี้ยวจริง ๆ
“อาเธอร์อยู่ในนี้ ชั้นใต้ดินมีแหล่งพนันของพ่อค้าที่ร่ำรวยหรือพวกเชื่อสายราชวงศ์อยู่” ชมจนพอใจจึงเดินไปหาวินเซนต์ที่เกี้ยวสาวอยู่ เขาจึงเดินนำไปฉันเดินตามไปเช่นเคย มองวินซ์เซนต์จ่ายค่าผ่านทางเข้าโซนใต้ดิน จนเมื่อเข้ามาอยู่ในพื้นที่อโคจรแห่งนี้ จึงได้รู้ว่าแตกต่างจากด้านบนพอสมควร แต่ก็ยังสวยงามและวิจิตรไม่แพ้กันอยู่ดี
“เขาอยู่ไหน” ฉันกวาดสายตามองหา แค่ครู่เดียวฉันก็เจอเขานั่งอยู่โต๊ะกลางห้อง
เพราะฉันคือเขา จึงคาดการณ์ได้ว่าอาเธอร์คิดจะทำอะไร
โต๊ะตัวนั้นรวบรวมเหล่าผู้คนระดับสูงไว้มากมาย ระหว่างที่เล่นก็มีการพูดคุยกันเสมอ แน่นอน นั้นคือแหล่งข้อมูลชั้นดีสำหรับเรา ฉันคว้าถุงผ้าสีน้ำเงินที่ใส่เงินทองของวินเซนต์มา
“ยืมก่อนนะวินซ์ กลับเมืองจะคืนให้สี่เท่า” ฉันยิ้มหวานให้วินซ์ที่เพิ่งจะหันมาทำความเข้าใจคำพูดฉัน ไม่รอให้ร่างสูงเอ่ยถามฉันปลีกตัวออกมาแล้วเดินไปยังโต๊ะนั้นทันที แม้จะแค่เข้ามาดู แต่พกทองไว้หน่อยก็ดี
“เชิญเลยขอรับสตรีและบุรุษทั้งหลาย ครั้งนี้เราจะเปิดให้ลงพนันกัน ระหว่างเจ้าแห่งคาสิโนทั้งปริศนาสองท่าน ฝั่งซ้ายมือกระผมคือบุรุษไร้นามที่ชนะมาแล้ววันนี้ 12 ครั้งติดๆ ส่วนทางขวาคือแม่หญิงปริศนาที่ปรากฏตัวขึ้นที่นี้บ่อยครั้ง และทุกครั้งเธอจะกวาดของรางวัลและชัยชนะไปได้เสมอ และแน่นอน ไม่มีใครทราบชื่อแซ่ของทั้งคู่” นั้นไง เห็นไหมล่ะ ดีนะที่หยิบทองมาจากวินเซนต์
ฉันมองตามสายตาอาเธอร์ที่จับจ้องมองคู่ต่อสู้ไม่วางตา ฉันจึงมองด้วยความสงสัยว่าอะไรดึงดูดสายตาเขาไว้ เมื่อหันไปก็แทบจะละสายตาจากมนต์ขลังนั้นไม่ได้
ผมสีดำสนิทรวบมวยสูง ปอยผมที่หล่นลงมาประดับกรอบหน้าทำให้ดูมีมิติ ริมฝีปากอิ่มเอิบเซ็กซี่น่าหลงใหล จมูกเล็กแต่โด่งสวยรับกับคิ้วเรียวและรูปหน้า ที่ดึงดูดสายตาทุกคนที่สุดคงเป็นดวงตาคมเฉี่ยวสีดำสนิททอประกายความเจ้าเล่ห์ที่ดูเย้ายวนให้วิ่งเข้าหา แค่จ้องมองก็รู้สึกเหมือนถูกล่อลวงให้กลายเป็นเหยื่อ ร่างอวบอัดไปทุกสัดส่วนอยู่ในชุดสีดำแต่งลูกไม้ขับให้ผิวขาวซีดยิ่งโดดเด่นมากขึ้น เนินอกขาว ๆ ที่แทบจะล้นทะลักดึงดูดสายตาหื่นกระหายของผู้ชายทั่วทั้งชั้นได้เป็นอย่างดี
ฉันมองกลับไปที่อาเธอร์ เขายังคงมองคนตรงหน้าอยู่ด้วยใบหน้านิ่งเรียบ ทำให้ฉันเดาไม่ได้ว่าสายตาคู่นั้นมองอะไรอยู่ แต่ถ้าเราคือคนเดียวกัน แน่นอนว่าต้องมอง...
ฉันไม่ได้หึงอะไรหรอกนะ!
ก่อนที่จะฟุ้งซ่านไปก่อน ความหอมอ่อน ๆ ของกำยานก็ลอยมาแตะจมูกทำให้สมองผ่อนคลายขึ้นมานิดหน่อย
“ท่านคุ...เซะ” เสียงใสที่มาพร้อมกลิ่นหอมอ่อนนั้นพึมพำเบา ๆ แต่คงเพราะอยู่ใกล้มากฉันเลยได้ยินชัดเจน ฉันช้อนสายตามองคนตัวสูงที่เอาแต่จับจ้องร่างอวบอัดของคนที่นั่งอยู่ตรงข้ามอาเธอร์ แต่ที่แปลกใจคือเขาไม่ใช่ผู้หญิง แต่เป็นผู้ชายร่างใหญ่ๆคนนึง เสียงนั้นใช่เขาแน่เหรอ ฉันคิดแล้วเหลือบมองแถวนี้ก็ไม่มีผู้หญิงนะ
“ท่านมาทำอะไรที่นี้ ท่านคุโรคาเซะ” คราวนี้ได้ยินชัดมาก เป็นเสียงของเขาจริง ๆ สีหน้าไม่สู้ดีของเจ้าของเสียงใสทำให้ฉันเลิกคิ้ว ยังไม่ทันได้ทำความรู้จักมักจี เจ้าของเรือนผมสีดำและเสียงใสนั้นก็วิ่งออกไปซะแล้ว กลิ่นหอมอ่อนก็หายไปด้วย แต่เสียงประกาศทำให้ฉันเลิกสนใจแล้วมามองการแข่งขันตรงหน้าแทน
“ลูลู เราต้องไปแล้ว จบการแข่งนี้อาเธอร์คงจะกลับเมืองเลย เราต้องกลับไปแล้วนะ” มือหนาลากแขนฉันออกมา ฉันลอบมองอาเธอร์อีกครั้งก่อนจะเดินตามวินเซนต์ไปดี ๆ “ได้ข้อมูลมานิดหน่อยเกี่ยวกับผู้ปกครองเมืองนี้ ถึงแล้วจะบอกให้ฟัง...และใช่ รวมถึงทั้งหมดที่ฉันรู้ ฉันจะบอกเธอลูเซียเรีย”น้ำเสียงจริงจังเคร่งเครียดทำให้ฉันปิดปากเงียบ น้อยครั้งที่วินเซนต์จะเรียกชื่อฉันเต็มๆ ยิ่งตอนอยู่ด้วยกันตามลำพังแล้ว แม่แต่ลูเซียยังแทบไม่หลุดจากปาก แต่รอบนี้มาแบบเต็มยศ
เรื่องนี้คงสำคัญจริง ๆ
Date :
2018-04-26 03:42:49
By :
ฟ้า
Load balance : Server 00