Register Register Member Login Member Login Member Login Forgot Password ??
PHP , ASP , ASP.NET, VB.NET, C#, Java , jQuery , Android , iOS , Windows Phone
 

Registered : 109,037

HOME > .NET Framework > Forum > การปัดเลขทศนิยมจากผลลัพธ์ที่ทำการคำนวณมา ให้เป็นเลขจำนวนเต็ม ต้องเขียน code (asp.net C#) ยังไงครับ



 

การปัดเลขทศนิยมจากผลลัพธ์ที่ทำการคำนวณมา ให้เป็นเลขจำนวนเต็ม ต้องเขียน code (asp.net C#) ยังไงครับ

 



Topic : 123600



โพสกระทู้ ( 16 )
บทความ ( 0 )



สถานะออฟไลน์




อยากทราบว่า การแปลงจากเลขทศนิยม ถ้า 2.4 ปัดเป็น 2 ถ้า 2.6 ปัดเป็น 3

ในภาษา C# asp.net มันเขียนยังไงอ่ะครับ โดยใช้เครื่องมือ Visual Studio



Tag : Web (ASP.NET), C#







Move To Hilight (Stock) 
Send To Friend.Bookmark.
Date : 2016-06-28 15:44:22 By : lukgolfpw View : 5061 Reply : 19
 

 

No. 1



โพสกระทู้ ( 151 )
บทความ ( 0 )



สถานะออฟไลน์


Code (C#)
double result =  Math.Round(1.7);







แสดงความคิดเห็นโดยอ้างถึง ความคิดเห็นนี้
Date : 2016-06-28 16:56:31 By : taotechnocom
 


 

No. 2

Guest


xxxMath_01

Code (C#)
using Microsoft.VisualBasic;
using System;
using System.Collections;
using System.Collections.Generic;
using System.Diagnostics;
using System.Text;
using System.Math;

public class MathExt
{
	public MathExt()
	{
	}
	/// <summary>
	/// ตัดเศษทิ้งทั้งหมด
	/// Truncate(1.9999) --> Result = 1
	/// </summary>
	/// <param name="dblValue"></param>
	/// <returns></returns>
	/// <remarks>
	/// 
	/// </remarks>
	public static double Truncate(double dblValue)
	{
		return Truncate(dblValue);
	}
      //ปัดสิบ/ปัด? แบบปัดขึ้นหรือปัดลง เป็นจำนวนเต็ม(Integer) เช่น
      // 21 = 20 หรือ 21 = 30 เป็นต้น
      /// <summary>
      /// 
      /// </summary>
      /// <param name="intValue"></param>
      /// <param name="UpDown"></param>
      /// <param name="Nearest"></param>
      /// <returns></returns>
      /// <remarks></remarks>
      public static double IntegerNearEst(int intValue, string UpDown = "U", int Nearest = 10)
      {
	      return UpDown.ToUpper() == "U" ? System.Math.Ceiling(intValue / Nearest) : System.Math.Floor(intValue / Nearest) * Nearest;
      }
}



ป.ล เขียนเอาไว้เพื่อประดับบารมี
แสดงความคิดเห็นโดยอ้างถึง ความคิดเห็นนี้
Date : 2016-06-28 21:31:36 By : หน้าฮี
 

 

No. 3

Guest


@ขอบคุณครับสำหรับทุกๆคนครับ
--- คำแนะนำสำหรับผมใ ห้คุณ หัดเขียน/เขี่ย JavaScript ให้คล่อง (ทางลัดก็ Jquery [มันก็มาจาก JavaScript])

อทิเช่น

Code (JavaScript)
    <script type="text/javascript">
        $(function () {
            $.fn.modalmanager.defaults.resize = true;
            $('[data-source]').each(function () {
                var $this = $(this),
                  $source = $($this.data('source'));
                var text = [];
                $source.each(function () {
                    var $s = $(this);
                    if ($s.attr('type') == 'text/javascript') {
                        text.push($s.html().replace(/(\n)*/, ''));
                    } else {
                        text.push($s.clone().wrap('<div>').parent().html());
                    }
                });
                $this.text(text.join('\n\n').replace(/\t/g, ''));
                //$this.text(text.join('\n\n').replace(/\t/g, '    '));
            });
            prettyPrint();
        })
    </script>



ป,ล คนเหนือคน
แสดงความคิดเห็นโดยอ้างถึง ความคิดเห็นนี้
Date : 2016-06-28 22:26:57 By : หน้าฮี
 


 

No. 4

Guest


@ taotechnocom
ผมเคยเห็นคุณเขียนเอาไว้

คำถาม: คุณคิดว่าผมเขียน Store Procedure เป็นไหม?
--- ไม่จำเป็นผมจะไม่ใช้ Store Procedure (ยกเว้นว่า ผมไม่มีทางเลือก)

Code (SQL)
USE [YOUR_DB]
GO
SET ANSI_NULLS ON
GO
SET QUOTED_IDENTIFIER ON
GO
ALTER Function [dbo].[genEAN13Digit] (@Number12 char(12))
 returns char(1)
AS
BEGIN
	--DECLARE @Number12 VARCHAR(12) = '123456789012';
	DECLARE @intCounter int = 1;
	DECLARE @Sum int = 0;

	--SET @intCounter = 1;
	WHILE @intCounter <= 12
	 BEGIN
	    SET @Sum = @Sum + CAST(SUBSTRING(@Number12, @intCounter, 1) AS int) * (14 - @intCounter);	
		SET @intCounter = @intCounter + 1;
	 END
	 --End While
	 RETURN  CAST(((11 - (@Sum % 11 )) % 10) AS char(1));	
END

แสดงความคิดเห็นโดยอ้างถึง ความคิดเห็นนี้
Date : 2016-06-28 23:01:11 By : หน้าฮี
 


 

No. 5



โพสกระทู้ ( 281 )
บทความ ( 0 )



สถานะออฟไลน์



แสดงความคิดเห็นโดยอ้างถึง ความคิดเห็นนี้
Date : 2016-06-28 23:07:23 By : deksoke
 


 

No. 6

Guest


จาก #NO4 ผมเขียนอยู่บน SQL Server 2008 R2
ซึ่งแต่ละ RDBMS มันก็แตกต่างกัน (ผมเขียได้หมดแหละ)
แสดงความคิดเห็นโดยอ้างถึง ความคิดเห็นนี้
Date : 2016-06-28 23:09:11 By : หน้าฮี
 


 

No. 7

Guest


@deksoke จาก #NO5

ยิ้มมาแต่ไกล เมนส์ไม่มา (ภรรยาของคุณกระซิบออก)
--- อย่าตื่นขึ้นมาพร้อมพระบินทะบาตรล่ะ +55555
แสดงความคิดเห็นโดยอ้างถึง ความคิดเห็นนี้
Date : 2016-06-28 23:12:30 By : หน้าฮี
 


 

No. 8

Guest


จาก #NO4

ไม่มีหมา (อ. มหาลัยไทยที่ไหน) เขียนให้ผมฟรีฯ ผม

ล้าว : ผมขอวานหน่อย คำตอบเหี้ยฯ [ทำไม่ได้หรอกครับ]
พเม้อ: ผมขอวานหน่อย คำตอบเหี้ยฯ [ทำไม่ได้หรอกครับ]
ขะแม้น: ผมขอวานหน่อย คำตอบเหี้ยฯ [ทำไม่ได้หรอกครับ]
...
...
...

สรุปสุดท้ายผมต้องเขียนเอง

ปล. ผมก็ยกมือไหว้ เป็นพิธี

แสดงความคิดเห็นโดยอ้างถึง ความคิดเห็นนี้
Date : 2016-06-28 23:27:37 By : หน้าฮี
 


 

No. 9



โพสกระทู้ ( 151 )
บทความ ( 0 )



สถานะออฟไลน์



แสดงความคิดเห็นโดยอ้างถึง ความคิดเห็นนี้
Date : 2016-06-29 10:18:00 By : taotechnocom
 


 

No. 10

Guest


ขนขึ้นหอยไม่ขึ้น เป็นเพราะอะไร?
Code (SQL)
SET NOCOUNT OFF;

DECLARE @tmp_TableA TABLE (grpName varchar(10), 
                           grpValue varchar(10), 
                           grpID int, 
                           rowID int)

INSERT INTO @tmp_TableA
SELECT 'หอย', 'value1', 1, 1 UNION
SELECT 'หอย', 'value2', 1, 2 UNION
SELECT 'งาม', 'value3', 2, 3 UNION
SELECT 'งาม', 'value4', 2, 4 UNION
SELECT 'เพราะ', 'value5', 3, 5 UNION
SELECT 'เพราะ', 'value6', 3, 6 UNION
SELECT 'ขน', 'value7', 4, 7 UNION
SELECT 'ขน', 'value8', 4, 8 UNION
SELECT 'คน', 'value9', 5, 9 UNION
SELECT 'งาม', 'value10', 6, 10 UNION
SELECT 'เพราะ', 'value11', 7, 11

DECLARE @cnt int = 1;
DECLARE @max int = (SELECT MAX(rowID) FROM @tmp_TableA);--DECLARE @max int = (SELECT MAX(rowID) FROM @tmp_TableA);
DECLARE @grpIDOld int = 1
DECLARE @grpIDNew int = 1
DECLARE @grpName varchar(10) = ''

WHILE (@cnt <= @max) BEGIN
    SELECT @grpName = GrpName, @grpIDNew = GrpID FROM @tmp_TABLEA WHERE rowID = @cnt
    --SELECT @grpName = GrpName, @grpIDNew = GrpID FROM @tmp_TABLEA WHERE rowID = @cnt
    IF @@ROWCOUNT > 0 BEGIN
	   --SET NOCOUNT ON -- OR PRINT 'Hi' for Reset RowCount = 0
	   IF @grpIDOld <> @grpIDNew BEGIN	     
  	     SET @grpIDOld = @grpIDNew
	     PRINT CAST(@cnt AS VARCHAR) + N' เปลียนกลุ่ม'
  	   END
  	   ELSE BEGIN	   
	       UPDATE @tmp_TABLEA SET GrpName = '' WHERE rowID = @cnt --UPDATE @tmp_TABLEA SET GrpName = '' WHERE rowID = @cnt
	       END
	   -- IF ELSE can Reset RowCount = 0
	  END
	ELSE BEGIN
	  PRINT CAST(@cnt AS VARCHAR) + N' หาไม่เจอ'       
	  END    
    SET @cnt = @cnt + 1
END

SELECT * FROM @tmp_TAbleA ORDER BY grpID 
GO


Hoy_01
แสดงความคิดเห็นโดยอ้างถึง ความคิดเห็นนี้
Date : 2016-06-29 11:01:22 By : หน้าฮี
 


 

No. 11



โพสกระทู้ ( 281 )
บทความ ( 0 )



สถานะออฟไลน์


ตอบความคิดเห็นที่ : 10 เขียนโดย : หน้าฮี เมื่อวันที่ 2016-06-29 11:01:22
รายละเอียดของการตอบ ::
ยกตัวอย่างให้ฟังหน่อยครับ ว่าถ้าเราเขียนแบบนี้
สามารถไปประยุกต์ใช้กับเคสไหนอะไรได้บ้าง

แสดงความคิดเห็นโดยอ้างถึง ความคิดเห็นนี้
Date : 2016-06-30 00:41:09 By : deksoke
 


 

No. 12



โพสกระทู้ ( 151 )
บทความ ( 0 )



สถานะออฟไลน์


ตอบความคิดเห็นที่ : 10 เขียนโดย : หน้าฮี เมื่อวันที่ 2016-06-29 11:01:22
รายละเอียดของการตอบ ::
ผมขอแก้นิดหนึ่งน่ะครับ พอดี หอยหายครับ
Code (SQL)
DECLARE @grpIDOld int = 0  
DECLARE @grpIDNew int = 0  


แสดงความคิดเห็นโดยอ้างถึง ความคิดเห็นนี้
Date : 2016-06-30 08:15:50 By : taotechnocom
 


 

No. 13



โพสกระทู้ ( 151 )
บทความ ( 0 )



สถานะออฟไลน์


เพิ่มเติม เผื่อเป็นทางเลือกครับ

Code (SQL)
SET NOCOUNT OFF;

DECLARE @tmp_TableA TABLE (grpName varchar(10), 
                           grpValue varchar(10), 
                           grpID int, 
                           rowID int)

INSERT INTO @tmp_TableA
SELECT 'หอย', 'value1', 1, 1 UNION
SELECT 'หอย', 'value2', 1, 2 UNION
SELECT 'งาม', 'value3', 2, 3 UNION
SELECT 'งาม', 'value4', 2, 4 UNION
SELECT 'เพราะ', 'value5', 3, 5 UNION
SELECT 'เพราะ', 'value6', 3, 6 UNION
SELECT 'ขน', 'value7', 4, 7 UNION
SELECT 'ขน', 'value8', 4, 8 UNION
SELECT 'คน', 'value9', 5, 9 UNION
SELECT 'งาม', 'value10', 6, 10 UNION
SELECT 'เพราะ', 'value11', 7, 11

;WITH cte AS
(
  SELECT
      ROW_NUMBER() OVER(PARTITION BY grpID  ORDER BY grpID ) AS rnum,
      grpID
	  ,grpName
  FROM @tmp_TableA
)
UPDATE cte  SET grpName =''
WHERE rnum > 1

SELECT * FROM @tmp_TableA ORDER BY grpID 

GO



ประวัติการแก้ไข
2016-06-30 08:46:35
แสดงความคิดเห็นโดยอ้างถึง ความคิดเห็นนี้
Date : 2016-06-30 08:45:47 By : taotechnocom
 


 

No. 14

Guest


@deksoke คุณมีเงินอยู่เต็มกระเป๋า ผมคงไม่ต้องบอกคุณว่าแล้วจะใช้มันอย่างไร?

@taotechnocom จาก #NO13 ทางเลือกเพิ่มเติม ถูกใจผมมากให้ไปเลย +5
แต่ผมอยากได้ทางเลือกเพิ่มเติมอีกโดยใช้ CROSS APPLY หรือ OUTER APPLY ตัวอย่างเช่น

Code (SQL)
CREATE TABLE #T(ID  int primary key,
                Field1 int,
                Field2 char(3))

INSERT INTO #T VALUES(1, 123, 'wow')

SELECT ID,
       Foo,
       Bar
FROM   #T
       CROSS APPLY (SELECT Foo,
                           Bar
                    FROM   (VALUES(1,2),
                                  (3,4),
                                  (5,6)) V(Foo, Bar)) AS X
DROP TABLE #T 



ได้ก็ดีไม่ได้ก็ไม่มีอะไรเสียหายครับ
แสดงความคิดเห็นโดยอ้างถึง ความคิดเห็นนี้
Date : 2016-06-30 12:03:29 By : หน้าฮี
 


 

No. 15



โพสกระทู้ ( 151 )
บทความ ( 0 )



สถานะออฟไลน์


ตอบความคิดเห็นที่ : 14 เขียนโดย : หน้าฮี เมื่อวันที่ 2016-06-30 12:03:29
รายละเอียดของการตอบ ::
@หน้าฮี ผมชอบแนวคิดคุณน่ะ ถึงผมคงจะบอกอะไรได้ไม่มากครับ ความรู้สึกล้วนๆ

แสดงความคิดเห็นโดยอ้างถึง ความคิดเห็นนี้
Date : 2016-06-30 17:48:42 By : taotechnocom
 


 

No. 16



โพสกระทู้ ( 281 )
บทความ ( 0 )



สถานะออฟไลน์


เทพคุยกัน สามัญชนงงเบย 555+
แสดงความคิดเห็นโดยอ้างถึง ความคิดเห็นนี้
Date : 2016-06-30 19:24:36 By : deksoke
 


 

No. 17



โพสกระทู้ ( 151 )
บทความ ( 0 )



สถานะออฟไลน์


ตอบความคิดเห็นที่ : 16 เขียนโดย : deksoke เมื่อวันที่ 2016-06-30 19:24:36
รายละเอียดของการตอบ ::
อย่าเรียกผมว่าเทพเลยครับ ผมยังเขียนแบบ งูๆปลาๆอยู่เลยครับ

แสดงความคิดเห็นโดยอ้างถึง ความคิดเห็นนี้
Date : 2016-06-30 20:11:31 By : taotechnocom
 


 

No. 18



โพสกระทู้ ( 281 )
บทความ ( 0 )



สถานะออฟไลน์


ตอบความคิดเห็นที่ : 17 เขียนโดย : taotechnocom เมื่อวันที่ 2016-06-30 20:11:31
รายละเอียดของการตอบ ::
555+ ผมเคารพทุกคนที่เก่งแหละครับ
มันทำให้ผมมีกำลังใจอยากเป็นได้อย่างเค้าบ้าง ว่างๆก็เลยไปศึกษาเพิ่มมา
เลยไปเจอเทคนิคใหม่ แชร์ๆกันไปครับ

Code (SQL)
DECLARE @START_NUM INT, @END_NUM INT, @NUM_STEP INT = 1
SET @START_NUM = 2011
SET @END_NUM = 2016
SET @NUM_STEP = 2

WITH A AS (
	SELECT @START_NUM VALUE UNION ALL
	SELECT VALUE+@NUM_STEP FROM A WHERE VALUE < @END_NUM
)
SELECT VALUE FROM A WHERE VALUE <= @END_NUM



แสดงความคิดเห็นโดยอ้างถึง ความคิดเห็นนี้
Date : 2016-07-01 21:11:13 By : deksoke
 


 

No. 19

Guest


Quote:
จาก #NO18 ต้องแก้ไขอีกนิดหน่อย

Code (SQL)
DECLARE @START_NUM INT, @END_NUM INT, @NUM_STEP INT = 1
SET @START_NUM = 2011
SET @END_NUM = 2016
SET @NUM_STEP = 2

;WITH A AS (
	SELECT @START_NUM VALUE UNION ALL
	SELECT VALUE+@NUM_STEP FROM A WHERE VALUE < @END_NUM
)
SELECT VALUE FROM A WHERE VALUE <= @END_NUM



1. ลองอ่านดู Comments
@START_NUM = m (anchor member)


Code (SQL)
DECLARE @Assets TABLE (ID int, PurchaseCost money, PurchaseDate Date, Period int)
INSERT INTO @Assets SELECT 1, 42000, '2006-02-10', 8*12 
;WITH cte      -- 8 years(96 month.)
AS (
	SELECT     -- anchor member
		CAST(0 AS int) AS m, 
		PurchaseDate AS PurchaseDate,
		Period,
		PurchaseDate AS StartdayOfMonth,
		CAST(DATEADD(mm, DATEDIFF(mm, 0, PurchaseDate) + 1, 0) -1 AS DATE) AS LastdayOfMonth,
		CAST(DATEDIFF(Day, PurchaseDate, DATEADD(mm, DATEDIFF(mm, 0, PurchaseDate) + 1, 0) -1) + 1 AS int) AS DayDiff,
		0 AS yield
    FROM @Assets a		                
	UNION ALL	
	SELECT     -- recursive member
		m + 1, 
		PurchaseDate,
		Period, 
		CAST(DATEADD(mm, DATEDIFF(mm, 0, DATEADD(mm, m + 1, PurchaseDate)), 0) AS Date) AS FirstdayOfMonth,
		CAST(DATEADD(mm, DATEDIFF(mm, -1, DATEADD(mm, m + 1, PurchaseDate)), 0) - 1 AS Date) AS LastdayOfMonth,
		DATEDIFF(Day,DATEADD(mm, DATEDIFF(mm, 0, DATEADD(mm, m + 1, PurchaseDate)), 0),DATEADD(mm, DATEDIFF(mm, -1, DATEADD(mm, m + 1, PurchaseDate)), 0) - 1 ) + 1, 
		--DATEDIFF(Day, StartdayOfMonth, LastdayOfMonth),
		y
	FROM cte CROSS APPLY (SELECT y =((m+1)/12)) b
	WHERE m < Period -- terminator
	)
SELECT * FROM cte



STEP 2
Code (SQL)
DECLARE @Assets TABLE (ID int, PurchaseCost money, PurchaseDate Date, Period int, หน้าฮี decimal(6,2))
INSERT INTO @Assets SELECT 1, 25000, '2006-01-15', 5*12, 20.0/100 
;WITH cte
AS (
	SELECT     -- anchor member
		CAST(0 AS int) AS m, PurchaseCost AS PurchaseCost, PurchaseDate As PurchaseDate, 
		Period AS Period, PurchaseDate AS StartdayOfMonth,
		CAST(DATEADD(mm, DATEDIFF(mm, 0, PurchaseDate) + 1, 0) -1 AS DATE) AS LastdayOfMonth,
		var00 AS DayDiff, CAST(((((PurchaseCost-1) * (20*1.0/100))/var02) * var00) AS money) AS DepreAmount,
		PurchaseCost AS BookValue, CAST(0 AS money) AS AccumDepre, CAST(DATEPART(dy, CAST(YEAR(var01) AS CHAR(4)) + '-12-31') AS int) AS DaysOfYear
    FROM @Assets CROSS APPLY (SELECT var00 = CAST(DATEDIFF(Day, PurchaseDate, DATEADD(mm, DATEDIFF(mm, 0, PurchaseDate) + 1, 0) -1) + 1 AS int),
                                     var01 = CAST(DATEADD(mm, DATEDIFF(mm, 0, PurchaseDate) + 1, 0) -1 AS DATE),
                                     var02 = CAST(DATEPART(dy, CAST(YEAR(CAST(DATEADD(mm, 
                                                  DATEDIFF(mm, 0, DATEADD(mm, 0, PurchaseDate)), 0) AS Date)) AS CHAR(4)) + '-12-31') AS int)) a	
    UNION ALL	
	SELECT     -- recursive member
		m + 1, PurchaseCost, PurchaseDate, Period, 
		var11 AS StartdayOfMonth,
		CAST(DATEADD(mm, DATEDIFF(mm, -1, DATEADD(mm, m + 1, PurchaseDate)), 0) - 1 AS Date) AS LastdayOfMonth, var10 AS DaysDiff,
        CASE m + 1 WHEN Period THEN DepreAmount ELSE CAST((PurchaseCost-1) * (20*1.0/100)/var12 * var10 AS money) END AS DepreAmount,
		CASE m + 1 WHEN Period THEN CAST(0 AS money) ELSE BookValue - DepreAmount END AS BookValue,
		CASE m + 1 WHEN Period THEN AccumDepre + BookValue ELSE AccumDepre + DepreAmount END AS AccumDepre,
		DATEPART(dy, CAST(YEAR(var11) AS CHAR(4)) + '-12-31') AS DaysOfYear
	FROM cte CROSS APPLY (SELECT var10 = DATEDIFF(Day,DATEADD(mm, DATEDIFF(mm, 0, DATEADD(mm, m + 1, PurchaseDate)), 0),
	                                     DATEADD(mm, DATEDIFF(mm, -1, DATEADD(mm, m + 1, PurchaseDate)), 0) - 1 ) + 1,
	                             var11 = CAST(DATEADD(mm, DATEDIFF(mm, 0, DATEADD(mm, m + 1, PurchaseDate)), 0) AS Date),
	                             var12 = CAST(DATEPART(dy, CAST(YEAR(CAST(DATEADD(mm, 
	                                          DATEDIFF(mm, 0, DATEADD(mm, m + 1, PurchaseDate)), 0) AS Date)) AS CHAR(4)) + '-12-31') AS int)) b 
	WHERE m < Period -- terminator 
	) 
	SELECT * FROM cte  



ผลลัพธ์มันได้แบบนี้
CTE_Recursive_1
CTE_Recursive_1_
แสดงความคิดเห็นโดยอ้างถึง ความคิดเห็นนี้
Date : 2016-07-01 22:08:00 By : หน้าฮี
 

   

ค้นหาข้อมูล


   
 

แสดงความคิดเห็น
Re : การปัดเลขทศนิยมจากผลลัพธ์ที่ทำการคำนวณมา ให้เป็นเลขจำนวนเต็ม ต้องเขียน code (asp.net C#) ยังไงครับ
 
 
รายละเอียด
 
ตัวหนา ตัวเอียง ตัวขีดเส้นใต้ ตัวมีขีดกลาง| ตัวเรืองแสง ตัวมีเงา ตัวอักษรวิ่ง| จัดย่อหน้าอิสระ จัดย่อหน้าชิดซ้าย จัดย่อหน้ากึ่งกลาง จัดย่อหน้าชิดขวา| เส้นขวาง| ขนาดตัวอักษร แบบตัวอักษร
ใส่แฟลช ใส่รูป ใส่ไฮเปอร์ลิ้งค์ ใส่อีเมล์ ใส่ลิ้งค์ FTP| ใส่แถวของตาราง ใส่คอลัมน์ตาราง| ตัวยก ตัวห้อย ตัวพิมพ์ดีด| ใส่โค้ด ใส่การอ้างถึงคำพูด| ใส่ลีสต์
smiley for :lol: smiley for :ken: smiley for :D smiley for :) smiley for ;) smiley for :eek: smiley for :geek: smiley for :roll: smiley for :erm: smiley for :cool: smiley for :blank: smiley for :idea: smiley for :ehh: smiley for :aargh: smiley for :evil:
Insert PHP Code
Insert ASP Code
Insert VB.NET Code Insert C#.NET Code Insert JavaScript Code Insert C#.NET Code
Insert Java Code
Insert Android Code
Insert Objective-C Code
Insert XML Code
Insert SQL Code
Insert Code
เพื่อความเรียบร้อยของข้อความ ควรจัดรูปแบบให้พอดีกับขนาดของหน้าจอ เพื่อง่ายต่อการอ่านและสบายตา และตรวจสอบภาษาไทยให้ถูกต้อง

อัพโหลดแทรกรูปภาพ

Notice

เพื่อความปลอดภัยของเว็บบอร์ด ไม่อนุญาติให้แทรก แท็ก [img]....[/img] โดยการอัพโหลดไฟล์รูปจากที่อื่น เช่นเว็บไซต์ ฟรีอัพโหลดต่าง ๆ
อัพโหลดแทรกรูปภาพ ให้ใช้บริการอัพโหลดไฟล์ของไทยครีเอท และตัดรูปภาพให้พอดีกับสกรีน เพื่อความโหลดเร็วและไฟล์ไม่ถูกลบทิ้ง

   
  เพื่อความปลอดภัยและการตรวจสอบ กระทู้ที่แทรกไฟล์อัพโหลดไฟล์จากที่อื่น อาจจะถูกลบทิ้ง
 
โดย
อีเมล์
บวกค่าให้ถูก
<= ตัวเลขฮินดูอารบิก เช่น 123 (หรือล็อกอินเข้าระบบสมาชิกเพื่อไม่ต้องกรอก)







Exchange: นำเข้าสินค้าจากจีน, Taobao, เฟอร์นิเจอร์, ของพรีเมี่ยม, ร่ม, ปากกา, power bank, แฟลชไดร์ฟ, กระบอกน้ำ

Load balance : Server 04
ThaiCreate.Com Logo
© www.ThaiCreate.Com. 2003-2024 All Rights Reserved.
ไทยครีเอทบริการ จัดทำดูแลแก้ไข Web Application ทุกรูปแบบ (PHP, .Net Application, VB.Net, C#)
[Conditions Privacy Statement] ติดต่อโฆษณา 081-987-6107 อัตราราคา คลิกที่นี่