Objective-C and if , else if , switch Flow Condition Statement (iOS,iPhone,iPad) |
Objective-C and if , else if , switch Flow Condition Statement (iOS,iPhone,iPad) ในการเขียนโปรแกรมทุกภาษา สิ่งที่ขาดไม่ได้เลยนั่นก็คือการใช้งาน if , else if และ switch โดยชุดคำสั่งเหล่านี้จะนำมาใช้ในกรณีที่ต้องการให้โปรแกรมเลือการทำงาน หรือตัดสินใจทำอย่างใดอย่างหนึ่ง และในภาษา Objective-C คำสังเหลานี้ก็ไม่ได้ต่างอะไรกับภาษาที่เราค้น ๆ กันอยู่ เช่น php , c# , java javascript หรือภาษาอืาน ๆ และเกือบจะเรียกได้ว่าไม่ต่างกันแม้กระทั่งรูปแบบการเขียนเลย ในบทความนี้จะไม่ได้อธิบายรูปแบบการใช้งานที่ละเอียดนัก แต่ก็พอจะเป็นตัวอย่างที่ดูแล้วสามารถเข้าใจได้ในทันที เพื่อเป็นพื้นฐานในการเขียนโปรแกรมบน iOS , iPhone และ iPad นั้นสะดวกยิ่งขึ้น
- if Statement เงื่อนไขเป็นจริงเท่านั้นถึงจะทำงาน
if (boolean expression) {
// Statement
}
Ex
int x = 10;
if (x == 10)
{
NSLog (@ "True x = %i" , x);
}
True x = 10
แสดงค่าเมื่อมีค่าเป็นจริงตามเงื่อนไข
- if else Statement ทางเลือก 2 ทาง ทำงานในเงื่อนที่เป็นจริง และ ทำงานในเงื่อนที่เป็นเท็จ
if (boolean expression) {
// Statement True
else
{
// Statement False
}
Ex
int x = 8;
if ( x > 10 )
{
NSLog (@"%i is more than 10",x);
}
else
{
NSLog (@"%i is less than 10",x);
}
8 is less than 10
กำหนดเงื่อนไข 2 ทางเลือก ว่าจะทำในกรณีที่เป็นจริง หรือ ทำในกรณีที่เป็นเท็จ
- if...else if...else Statement สร้างเงื่อนที่มากกว่า 2 เงื่อนไข
if (boolean expression) {
// Statement condition is true
}
else if (boolean expression) {
{
// Statement condition is true
}
else if (boolean expression) {
{
// Statement condition is true
}
else
{
// Statement False
}
Ex
int x = 3;
if ( x == 1 )
{
NSLog (@"%i is equal 1",x);
}
else if( x == 2 )
{
NSLog (@"%i is equal 2",x);
}
else if( x == 3 )
{
NSLog (@"%i is equal 3",x);
}
else if( x == 4 )
{
NSLog (@"%i is equal 4",x);
}
else if( x == 5 )
{
NSLog (@"%i is equal 5",x);
}
else
{
NSLog (@"%i not have in condition",x);
}
3 is equal 3
ในตัวอย่างจะมีหลายเงื่อนไข แต่จะเลือกทำในเงื่อนที่เป็นจริงกับ condition นั้น ๆ
นอกจากนี้เรายังสามารถใช้ and (&&) เพื่อกำหนดเงื่อนไนในส่วนของ if ได้อีกด้วย เช่น
Ex
int x = 75;
if ( x >= 90 && x <= 100 )
{
NSLog (@"Grade A");
}
else if( x >= 80 && x <= 89 )
{
NSLog (@"Grade B");
}
else if( x >= 70 && x <= 79 )
{
NSLog (@"Grade C");
}
else if( x >= 60 && x <= 69 )
{
NSLog (@"Grade D");
}
else
{
NSLog (@"Grade F");
}
Grade C
- switch Statement สามารถสร้างเงื่อนได้ตั้งแต่ 1 เงื่อนไข จนถึงหลายเงื่อนไข แต่เขียนง่ายและสะดวกกว่า if..else..if
switch (expression)
{
case expression 1 :
statement
break;
case expression 2 :
statement
break;
case expression n :
statement
break;
default:
}
สังเกตุว่าในแต่ล่ะ statement จะต้องมี break; ด้วย
Ex
int x = 3;
switch (x)
{
case 1 :
NSLog (@"%i is equal 1",x);
break;
case 2 :
NSLog (@"%i is equal 2",x);
break;
case 3 :
NSLog (@"%i is equal 3",x);
break;
case 4 :
NSLog (@"%i is equal 4",x);
break;
case 5 :
NSLog (@"%i is equal 5",x);
break;
default:
NSLog (@"%i not sent condition",x);
}
3 is equal 3
จากตัวอย่าง 4-5 ตัวจะเห็นว่าภาษา Objective-C มีรูปแบบเงื่อนการใช้งานคำสั่ง if .. else .. switch เหมือน ๆ กับภาษาที่เราคุ้น ๆ พวก php , javascript , c# หรือ java ฉะนั้นบทความนี้จะไม่ได้อธิบายการใช้งานที่ละเอียดนัก
.
|
ช่วยกันสนับสนุนรักษาเว็บไซต์ความรู้แห่งนี้ไว้ด้วยการสนับสนุน Source Code 2.0 ของทีมงานไทยครีเอท
|
|
|
By : |
ThaiCreate.Com Team (บทความเป็นลิขสิทธิ์ของเว็บไทยครีเอทห้ามนำเผยแพร่ ณ เว็บไซต์อื่น ๆ) |
|
Score Rating : |
|
|
|
Create/Update Date : |
2012-10-21 06:32:43 /
2017-03-25 22:51:33 |
|
Download : |
No files |
|
Sponsored Links / Related |
|
|
|
|
|