การเขียน SQL แบบนี้ คือ ใข้ IF ใน SQL เลย หรือว่าการเขียน โดย count(kpi_value.m10) ออกมาแล้วใช้ PHP มา IF Else ทีหลังอันไหนน่าใช้กว่ากัน
SQL 1 ดังนี้ึครับ
SELECT
co_office.Off_id,
co_office.Off_name,
IF(count(kpi_value.m10)>0,IF(count(kpi_value.m10)<=15,'ไม่ครบ', 'ครบ'),'ไม่รายงาน') as m10,
FROM
co_office
LEFT JOIN kpi_value ON co_office.Off_id = kpi_value.off_id
GROUP BY kpi_value.off_id
SQL 2 ดังนี้ครับ
SELECT
co_office.Off_id,
co_office.Off_name,
count(kpi_value.m10) as m10,
FROM
co_office
LEFT JOIN kpi_value ON co_office.Off_id = kpi_value.off_id
GROUP BY kpi_value.off_id
จาก SQL 2 นำค่า m10 มาแสดงโดยใช้ IF ใน PHP อีกทีนึง