หมายถึง การที่ข้อมูลจากฝั่ง client ที่ส่วนใหญ่แล้ว จะมาจาก Internet Explorer (IE) Browser ไม่ได้รับการตรวจสอบก่อนถูกส่งมาประมวลผลโดย Web Application ที่ทำงานอยู่บน Web Server ทำให้แฮกเกอร์สามารถดักแก้ไขข้อมูลในฝั่ง client
ก่อนที่จะถูกส่งมายังฝั่ง server โดยใช้โปรแกรมที่สามารถดักข้อมูลได้ เช่น โปรแกรม Achilles เป็นต้น ดังนั้น ถ้าเรารับข้อมูลจากฝั่ง client โดยไม่ระมัดระวัง หรือ คิดว่าเป็นข้อมูลที่เราเป็นคนกำหนดเอง เช่น เทคนิคการใช้ Hidden Field หรือ Form Field ตลอดจนใช้ข้อมูลจาก Cookies เราอาจจะโดนแฮกเกอร์แก้ไขข้อมูลฝั่ง client ด้วย โปรแกรมดังกล่าวแล้วส่งกลับมาฝั่ง server ในรูปแบบที่แฮกเกอร์ต้องการ และมีผลกระทบกับการทำงานของ Web Application ในฝั่ง web server
วิธีการป้องกัน
เราควรจะตรวจสอบข้อมูลที่รับมาจากทั้ง 2 ฝั่ง คือ ข้อมูลที่รับมาจาก client ผ่านทาง Browser และข้อมูลที่รับมาประมวลผลที่ web server โดยตรวจสอบที่ web server อีกครั้งก่อนนำไปประมวลผลด้วย Web application เราควรมีการฝึกอบรม Web Programmer ของเราให้ระมัดระวังในการรับ input จากฝั่ง client ตลอดจนมีการ Review Source code ไม่ว่าจะเขียนด้วย ASP, PHP หรือ JSP Script ก่อนที่จะนำไปใช้งานในระบบจริง ถ้ามีงบประมาณด้านรักษาความปลอดภัย ก็แนะนำให้ใช้ application level firewall หรือ Host-Based IDS/IPS ที่สามารถมองเห็น Malicious content และป้องกันในระดับ application layer
2. Broken Access Control
หมายถึง มีการป้องกันระบบไม่ดีพอเกี่ยวกับการกำหนดสิทธิของผู้ใช้ (Permission) ที่สามารถจะ Log-in /Log-on เข้าระบบ Web application ได้ ซึ่งผลที่ตามมาก็คือ ผู้ที่ไม่มีสิทธิเข้าระบบ (Unauthorized User) สามารถเข้าถึงข้อมูลที่เราต้องการป้องกันไว้ไม่ให้ Unauthorized User เข้ามาดูได้ เช่น เข้ามาดูไฟล์ข้อมูลบัตรเครดิตลูกค้าที่เก็บอยู่ใน Web Server หรือ เข้าถึงไฟล์ข้อมูลในลักษณะ ฏDirectory Browsing โดยเห็นไฟล์ทั้งหมดที่อยู่ใน web Server ของเรา ปัญหานี้เกิดจากการกำหนด File Permission ไม่ดีพอ และ อาจเกิดจากปัญหาที่เรียกว่า "Path Traversal" หมายถึง แฮกเกอร์จะลองสุ่มพิมพ์ path หรือ sub directory ลงไปในช่อง URL เช่น http://www.abc.com/../../customer.mdb เป็นต้น นอกจากนี้อาจเกิดจากปัญหาการ cache ข้อมูลในฝั่ง client ทำให้ข้อมูลที่ค้างอยู่ cache ถูกแฮกเกอร์เรียกกลับมาดูใหม่ได้ โดยไม่ต้อง Log-in เข้าระบบก่อน
วิธีการป้องกัน
พยายามอย่าใช้ User ID ที่ง่ายเกินไป และ Default User ID ที่ง่ายต่อการเดา โดยเฉพาะ User ID ที่เป็นค่า default ควรลบทิ้งให้หมด สำหรับปัญหา Directory Browsing หรือ Path Traversal นั้น ควรมีการ set file system permission ให้รัดกุม เพื่อป้องกัน ช่องโหว่ที่อาจถูกโจมตี และ ปิด file permission ใน sub directory ต่างๆ ที่ไม่ได้ใช้ และ ไม่มีความจำเป็นต้องให้คนภายนอกเข้า เพื่อป้องกันแฮกเกอร์สุ่มพิมพ์ path เข้ามาดึงข้อมูลได้ และควรมีการตรวจสอบ Web Server log file และ IDS/IPS log file เป็นระยะๆ ว่ามี Intrusion หรือ Error แปลกๆ หรือไม่